สธ.จับมือ INET พัฒนาศูนย์กลางข้อมูลและชุดข้อมูลด้านการเงินกระทรวงสาธารณสุข
วันนี้ (23 สิงหาคม 2566) ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัด สธ. ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) ดำเนินการศูนย์กลางข้อมูลด้านการเงิน (Financial Data Hub) กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ นางมรกต กุลธรรมโยธิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) โดยมี นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ รองปลัด สธ. และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
นพ.โอภาส กล่าวว่า สธ. มีนโยบายสนับสนุนการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการบริการสุขภาพ และพัฒนาไปสู่ระบบสุขภาพดิจิทัลที่มีการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพอย่างเป็นระบบ ซึ่งรวมไปถึงข้อมูลด้านการเงินของหน่วยงานในสังกัด สธ. ที่ต้องมีการเชื่อมโยงเป็นคลังข้อมูลด้านการเงินกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้สามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์ วางแผน และกำหนดนโยบายได้ชัดเจน ตรงตามเป้าหมาย เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์ของข้อมูลร่วมกัน ภายใต้มาตรการและแนวปฏิบัติธรรมาภิบาลข้อมูลภาครัฐ (Data Governance for Government) รวมทั้งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 และ พ.ร.บ.ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ.2562 ขณะที่ประชาชนก็มีข้อมูลทางด้านสุขภาพที่มีมาตรฐานและเชื่อมต่อกับหน่วยต่างๆได้อย่างปลอดภัย
“ข้อมูลด้านสุขภาพของ สธ.มีจำนวนมาก ครอบคลุมประชาชนคนไทยเกิน ร้อยละ 70-80 การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือพัฒนาศูนย์กลางข้อมูลด้านการเงิน รวมถึงการพัฒนาชุดข้อมูลด้านการเงิน (Financial Data Set) ของกระทรวงสาธารณสุข ในวันนี้ จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นในการควบคุมและบริหารจัดการข้อมูลสุขภาพของหน่วยบริการในสังกัด สธ.เชื่อมโยงข้อมูลด้านการเงินและสุขภาพของประชาชน รวมทั้งการพิจารณาอนุญาตให้หน่วยงานภายนอกสามารถเชื่อมต่อข้อมูลตามขอบเขตที่ สธ.กำหนดอย่างชัดเจน เป็นระบบและได้มาตรฐาน ซึ่งสามารถนำใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆ ได้อย่างมหาศาล โดยเฉพาะการพัฒนาด้านการแพทย์และสาธารณสุข ประชาชนจะทราบข้อมูลตนเองได้มากยิ่งขึ้น เป็นผลดีต่อประชาชนและประเทศชาติ” นพ.โอภาส กล่าว
ด้านนางมรกต กล่าวว่า ตามความร่วมมือดำเนินการศูนย์กลางข้อมูลด้านการเงินกระทรวงสาธารณสุข บริษัทฯ จะเป็นผู้ดำเนินการพัฒนา Gateway ที่จะเชื่อมต่อเครือข่ายต่างๆ ให้หน่วยบริการสามารถส่งข้อมูลบริการสุขภาพมาประมวลผลที่ศูนย์กลางข้อมูลด้านการเงิน กระทรวงสาธารณสุข และส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และทำหน้าที่เป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ตามข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกับ สธ.
