ปธ.ชมรมสาธารณสุข ขอรัฐบาลใหม่วางระบบบริการสุขภาพให้ประชาชนในท้องถิ่น
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม นายประพันธ์ ใยบุญมี ประธานชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาในระบบสาธารณสุข และข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลชุดใหม่ ที่มีการคาดการณ์ว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ว่า ในเรื่องที่ ชมรมสาธารณสุขฯ อยากจะเสนอ เรื่องแรกคือ ระบบบริการของหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ บัตรทอง หรือ 30 บาท ซึ่งถือกำเนิดโดยพรรคไทยรักไทย หรือพรรคเพื่อไทย ในปัจจุบัน ซึ่งได้เห็นนโยบายของพรรคเพื่อไทยในการยกระดับหลักประกันสุขภาพ หรือ พีระมิดพรีเมียม
“ผมในฐานะประธานชมรมสาธารณสุขฯ ก็เห็นด้วย เพราะเป็นสิ่งที่ดี แต่ปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลง คือ การถ่ายโอนอำนาจโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ไปสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จึงจำเป็นต้องมีระบบใหม่มาเชื่อมโยงจุดนี้ให้ได้ ระบบสาธารณสุขวันนี้ไม่เหมือนกับปี 2545 ผ่านมา 20 ปีแล้ว มีการถ่ายโอนอำนาจไปท้องถิ่น จึงต้องมีความเชื่อมโยงมากขึ้น เพราะเดิมสาธารณสุขจะมีแค่ระบบผู้อำนวยการ แต่วันนี้มีหลายภาคส่วน หลายองค์กร เรื่องนี้จึงต้องขอความชัดเจนกับรัฐมนตรีว่าการ สธ. และผู้ให้บริการ ส่วนพื้นที่ก็พร้อมปฏิบัติตามนโยบายนั้นๆ” นายประพันธ์ กล่าว
ประธานชมรมสาธารณสุขฯ กล่าวว่า สำหรับปัญหาความแออัดในโรงพยาบาล หรือปัญหาขาดแคลนแพทย์ ตนมองว่า การแก้ไขการให้บริการระบบสุขภาพปฐมภูมิ จะต้องมีการเติมทรัพยากรระดับพื้นที่มากขึ้น นอกจากนั้น ก็ต้องเติมเรื่องงบประมาณเข้ามาด้วย เพื่อให้หน่วยบริการในพื้นที่จัดบริการได้ ซึ่ง นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัด สธ. ก็ได้เร่งดำเนินการเรื่องนี้ แต่ก็ต้องอาศัยการผลักดันของฝ่ายการเมืองด้วย
“อย่างไรก็ตาม ระบบเดิมของสาธารณสุข คือ การดูแลจากบนลงล่าง แต่ถ้าวันนี้เน้นเรื่องปฐมภูมิให้เข้มแข็ง โดยเฉพาะเรื่องความขาดแคลนแพทย์ที่ควรจะแก้ไขด้วยการสนับสนุนให้เกิดแพทย์ตำบล อย่างที่เราเคยเห็นพยาบาลตำบลที่ได้รับทุนประจำตำบลไปเรียนต่อ ดังนั้น ก็มีความหวังว่ารัฐบาลชุดใหม่จะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ อาจจะในรูปแบบส่งเสริมคนในตำบลไปเรียนแพทย์ด้วยการมอบทุนเรียน หรือส่งเสริมบุคลากรเดิมแต่อยู่ในระดับล่าง เช่น รพ.สต. นักวิชาการ ฯลฯ ให้สามารถไปเรียนต่อแพทย์ได้ เราต้องยอมรับว่า คนในชนบท ไม่มีแพทย์เลย ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ รัฐบาลควรจะส่งเสริมและแก้ไขปัญหาด้วยวิธีใหม่ เชื่อว่าถ้าพรรคเพื่อไทย หรือ รัฐมนตรีว่าการ สธ. คนใหม่ มีทุนแพทย์ประจำตำบล ก็จะทำให้แพทย์คงอยู่ในตำบลนั้น ก็จะลดปัญหาขาดแพทย์ได้แม้จะใช้เวลาแก้ไขพอสมควร แต่ก็ควรมีการปูทางแก้ไขไว้ก่อน” นายประพันธ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงความคาดหวังต่อพรรคเพื่อไทย ที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาระบบสาธารณสุข โดยเฉพาะระบบบัตรทอง ที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นปัญหาด้านภาระงานของแพทย์ นายประพันธ์ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นมีมานานแล้ว แต่ระบบบัตรทองเป็นสิ่งที่ดี ทำให้ประชาชนไม่ต้องเสียเงินในการรักษาโรค
“เพียงแต่ว่า วันนี้การพัฒนาส่วนใหญ่ไปอยู่ในโรงพยาบาลใหญ่ ฉะนั้น ถ้านโยบายจากรัฐบาลใหม่ หรือรัฐมนตรีว่าการ สธ. มุ่งเน้นสร้างระบบสุขภาพปฐมภูมิให้เข้มแข็ง ก็จะช่วยแก้ไขปัญหาได้ เช่น การมี โรงพยาบาลประจำตำบล เพราะตำบลหนึ่งก็มีประชากรกว่า 20,000 คน แล้ว หากมีโรงพยาบาลประจำตำบล ที่มีแพทย์อย่างน้อย 1 คน ที่มีความก้าวหน้าเหมาะสม ก็จะช่วยให้คนอยากกลับไปทำงานอยู่ในชุมชนมากขึ้น เพราะทุกวันนี้งบประมาณต่างๆ ไปอยู่ในเมืองใหญ่มากกว่า” นายประพันธ์ กล่าว