กรมอนามัย หนุน “ทารก” กินนมแม่ตั้งแต่แรกเกิด ผนึก 13 หน่วยงานส่งเสริม

กรมอนามัย หนุน “ทารก” กินนมแม่ตั้งแต่แรกเกิด ผนึก 13 หน่วยงานส่งเสริม

วันนี้ (18 กันยายน 2566) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การขับเคลื่อนงานการส่งเสริม สนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ร่วมกับภาคีเครือข่าย ว่า มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย และกรมอนามัยร่วมกันขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ โดยมีเป้าประสงค์ให้เด็กไทยได้รับการเลี้ยงดูด้วยนมแม่ล้วนอย่างเดียวใน 6 เดือนแรก และกินนมแม่ต่อเนื่องร่วมกับอาหารตามวัยจนถึง 2 ปีหรือนานกว่า และเพื่อให้การขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์สำเร็จลุล่วงไปตามเป้าประสงค์ จึงจัดทำเอ็มโอยูฉบับนี้

โดยแต่ละภาคีจะดำเนินงานและกิจกรรมตามบทบาทและพันธกิจของตนเอง และเชื่อมโยงการทำงานระหว่างภาคีเครือข่าย โดยมีหน่วยงานที่ร่วมลงนามทั้งสิ้น 13 หน่วยงาน ได้แก่ กรมอนามัย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กรมกิจการเด็กและเยาวชน มูลนิธิพัฒนาสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษานวมินทราชินี กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวชและโรงพยาบาลบีเอ็นเอช มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย สภาการพยาบาล สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร (กทม.)

Advertisement

ด้าน นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวเพิ่มเติมว่า การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ถือเป็น
การวางรากฐานที่ดีให้กับลูก โดยเฉพาะช่วงเวลาสำคัญที่สุดของทุกคน คือ 1,000 วันแรกของชีวิต ลูกควรได้รับนมแม่ภายใน 1 ชั่วโมงหลังคลอด และควรกินนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนแรก จากนั้น ควรกินนมแม่ควบคู่กับอาหารตามวัยถึง 2 ปี หรือนานกว่านั้น แต่จากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ เมื่อปี 2565 พบว่า อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน ของประเทศไทยอยู่ที่ประมาณร้อยละ 28 ซึ่งน้อยกว่าเป้าหมายระดับโลกในปี 2568 อย่างมาก ซึ่งเกิดจากการที่แม่ขาดความมั่นใจคิดว่าตนเองน้ำนมไม่เพียงพอ ประกอบกับต้องกลับไปทำงานหลังหมดวันลาคลอด หรือบางส่วนไม่ใช้วันลาคลอดเนื่องจากกลัวเสียรายได้ ส่งผลให้ลูกต้องกินนมผง หรืออาหารอื่นทดแทนแม่ ทั้งนี้ กรมอนามัยในฐานะหน่วยงานหลักในการอภิบาลระบบการส่งเสริมสุขภาพ เล็งเห็นถึงความจำเป็นของการสร้างระบบบริการสุขภาพที่มีคุณภาพและเป็นมิตร เอื้อต่อการเตรียมความพร้อมและสร้างความรู้ความมั่นใจให้แม่และครอบครัวในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้สำเร็จ โดยได้ตั้งเป้าหมายในปี 2568 ให้เด็กแรกเกิดถึงอายุต่ำกว่า 6 เดือนกินนมแม่อย่างเดียว อย่างน้อยร้อยละ 50 และเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อยร้อยละ 70 ในปี 2573 เพราะเราเชื่อมั่นในคุณประโยชน์ของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ทั้งในแง่ของสารอาหาร โดยเฉพาะการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและฮอร์โมน ซึ่งนมผงไม่สามารถสร้างได้และการสร้างสายสัมพันธ์ที่ส่งผลต่อพัฒนาการทางสมอง ร่างกาย และจิตใจไปตลอดชีวิต

Advertisement

พญ.ศิริพร กัญชนะ ประธานมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การช่วยเหลือแม่และครอบครัวในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้สำเร็จต้องได้รับความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งในภาครัฐและเอกชนตามบทบาทหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ จึงเป็นการสานพลังช่วยเหลืออย่างครบวงจร เพื่อให้แม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่สำเร็จ และเด็กได้รับนมแม่อย่างเดียวถึงอายุ 6 เดือน และได้กินนมแม่ควบคู่กับอาหารตามวัยถึง 2 ปี หรือนานกว่านั้น เมื่อถึงเวลาที่แม่ต้องไปทำงานก็จะมีสถานเลี้ยงดูทารกและเด็กเล็กอายุ 3 เดือนถึง 3 ปี ที่เน้นการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อยู่ใกล้บ้านหรือใกล้ที่ทำงานรองรับ รวมถึงสนับสนุนให้สถานประกอบการมีมุมนมแม่ ความร่วมมือในการช่วยเหลือแม่จึงเป็นรากฐานสำคัญให้การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นวิถีแห่งแม่ เป็นค่านิยมของสังคม และเป็นวัฒนธรรมของชาติไทยที่เข้มแข็งในที่สุด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image