สธ.-การบินพลเรือนฯ จับมือ 4 สายการบิน พัฒนาขนส่งตัวอย่างสารและเชื้อโรคทางอากาศ
วันนี้ (25 กันยายน 2566) ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) เรื่อง ความร่วมมือในการขนส่งตัวอย่างสารชีวภาพและเชื้อโรคทางอากาศ ระหว่างกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กับ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด และ บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด โดยมี นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์ฯ นายขจรพัฒน์ มากลิ่น ผู้จัดการสำนักนิรภัยและกำกับมาตรฐานการตรวจสอบ รักษาการรองผู้อำนวยการ ปฏิบัติการแทนผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย นางเนตรนภางค์ ธีระวาส ประธานเจ้าหน้าที่สายบริการลูกค้า บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด นาวาอากาศตรีดำรงค์ ภาสน์พิพัฒน์กุล ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการบิน บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด นายพิเชษฐ์ บุญพร้อมรักษา ผู้อำนวยการส่วนควบคุมการปฏิบัติการภาคพื้น ฝ่ายปฏิบัติการภาคพื้นและขนส่งสินค้า บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) น.ส.บรรจงจิตต์ กันหาเล่ห์ รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายบริการภาคพื้นสินค้าและไปรษณียภัณฑ์ บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามมีคณะผู้บริหารกรมวิทยาศาสตร์ฯ สำนักงานการบินพลเรือนฯ และผู้บริหารของทั้ง 4 สายการบิน ร่วมเป็นสักขีพยาน
นพ.ศุภกิจ เปิดเผยว่า จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2562 จนถึงปัจจุบัน ทำให้มีตัวอย่างสงสัยติดเชื้อจำนวนมากถูกส่งไปยังห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจวินิจฉัย โดยช่องทางการขนส่งตัวอย่างมีทั้งทางบกและทางอากาศ และจากสถานการณ์ดังกล่าวได้ชี้ให้เห็นว่าระบบขนส่งตัวอย่างที่รวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์ และได้มาตรฐานตามหลักเกณฑ์ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ.2558 และแนวทางการปฏิบัติของกฎอนามัยระหว่างประเทศ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการควบคุม และป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งการขนส่งทางอากาศก็เป็นช่องทางหนึ่งที่สำคัญในการสนับสนุนระบบสาธารณสุขของประเทศไทย
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์ฯ เป็นหน่วยงานหลักที่มีบทบาทด้านห้องปฏิบัติการเล็งเห็นความสำคัญของการขนส่งตัวอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวอย่างติดเชื้อในปี 2566 ได้จัดการฝึกอบรมเรื่องการบรรจุและขนส่งตัวอย่างติดเชื้ออันตรายสูงทางอากาศให้กับเจ้าหน้าที่หน่วยงานเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ บริษัทสายการบินให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศ การท่าอากาศยานไทย โรงพยาบาล สำนักงานสาธารณสุข สํานักงานป้องกันควบคุมโรค และกองด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศและกักกันโรค ซึ่งได้จัดไปแล้ว 2 ครั้ง ที่ท่าอากาศยานนานาชาติสมุย และ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต เพื่อซักซ้อมแผนหน้างานจริงในพื้นที่เกาะสมุยและภูเก็ต ซึ่งเป็นพื้นที่ท่องเที่ยว สร้างแนวทางและระบบในการขนส่งตัวอย่างติดเชื้ออันตรายสูงทางอากาศของประเทศ เพิ่มความเข้าใจและความมั่นใจในความปลอดภัยของขบวนการบรรจุและขนส่งระหว่างผู้บรรจุและผู้ขนส่งตัวอย่าง อีกทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับรองรับกับการระบาดโรคอุบัติใหม่อุบัติซ้ำในอนาคต
“การลงนามเอ็มโอยูระหว่างกรมวิทยาศาสตร์ฯ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย และ 4 สายการบิน ให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศของประเทศ ในครั้งนี้ เป็นผลจากการหารือร่วมกัน และนับเป็นก้าวย่างอันสำคัญยิ่งที่จะทำให้เกิดการดำเนินงานแบบบูรณาการ และร่วมมือกันพัฒนาระบบการบรรจุและขนส่งตัวอย่างสารชีวภาพและเชื้อโรค ทางอากาศ ให้สามารถดำเนินการตอบสนองต่อสถานการณ์ในพื้นที่ได้อย่างเป็นระบบ ถูกต้อง ปลอดภัย เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อมุ่งไปสู่สุขภาพที่ดีของประชาชนและได้รับบริการที่มีคุณภาพเท่าเทียมทุกพื้นที่” นพ.ศุภกิจ กล่าว