“พิพัฒน์” เผย สปส.เตรียมส่ง “รถโมบาย” บริการทำฟันให้ผู้ประกันตนถึงโรงงาน
วันนี้ (29 กันยายน 2566) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยภายหลังนำคณะเข้าตรวจเยี่ยมและรับทราบผลการดำเนินงานของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) พร้อมมอบนโยบาย ว่า ในยุคของตนขอให้ข้าราชการที่จะขึ้นสู่ตำแหน่งต่างๆ ต้องขึ้นด้วยความสามารถ ไม่ต้องมีการวิ่งเต้น การซื้อขายตำแหน่งต้องไม่มีอย่างเด็ดขาด และขอให้มีความโปร่งใสกับตัวเอง หน้าที่การงานที่ต้องทำ และสิ่งต่างๆทั้งนี้ ในการดูแลผู้ประกันตนจะเน้นวิธีการป้องกันโรค ไม่ใช่รักษาหลังเกิดโรค แต่หากเจ็บป่วยจนต้องพักรักษาตัว ผู้ประกันตนจะต้องได้สิทธิประโยชน์ต่างๆ อย่างเต็มที่
นายพิพัฒน์ ยังกล่าวถึงนโยบายดูแลสุขภาพผู้ประกันตน ว่า ที่กำลังจะทำคือ นำรถโมบายไปดูแลรักษาโรคต่างๆ ให้ผู้ประกันตนถึงสถานประกอบการ โดยในเร็วๆนี้ จะเริ่มจากโรคที่เกี่ยวกับฟัน
“เป็นการทำงานเชิงรุก โดยผู้ใช้แรงงานไม่ต้องเสียเวลา เราไปให้บริการ และเราจะใช้วิธีการป้องกันโรคมากกว่าให้ไปรักษาโรค อะไรที่สามารถป้องกันได้ ประกันสังคมจะทำทุกวิถีทางในการป้องกัน และที่สำคัญที่สุด อยากเน้นย้ำว่า ที่ประกันสังคมไปลงนามเอ็มโอยูกับโรงพยาบาลต่างๆ ถึง 2,000 กว่าแห่ง กำชับว่าสถานพยาบาลต้องดูแลผู้ป่วยที่เป็นผู้ประกันตนให้ดีที่สุด เพราะเขาลงทุนค่ารักษาพยาบาลส่วนหนึ่งด้วย” นายพิพัฒน์ กล่าว
นอกจากนี้ นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ได้มีการให้นโยบายไปยังผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ สปส. ในภาวะเศรษฐกิจขณะนี้ จะช่วยเหลือผู้ประกันตนได้อย่างไรในเรื่องของการเพิ่มเงินค่าครองชีพ โดย สปส.ต้องไปประสานงานกับสถาบันทางการเงินต่างๆ เพื่อจะปล่อยกู้โดยไม่มีหลักประกันให้กับผู้ประกันตน แต่ขอให้ผู้ประกอบการหรือนายจ้างช่วยรับรองการเงินให้กับลูกจ้างผู้ประกันตนด้วย
“นั่นหมายความว่า ผู้ประกันตนสามารถกู้เงินจากสถาบันการเงินได้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งจะดีกว่ากู้เงินนอกระบบ ถ้าเราสามารถช่วยตรงนี้ได้ ก็เท่ากับช่วยให้ผู้ประกันตนมีรายได้เพิ่มเอาไปใช้จ่ายอย่างอื่น ถือเป็นการลดภาระให้กับผู้ประกันตน แบบที่ไม่จำเป็นต้องอาศัยการขึ้นค่าจ้างเสมอไปก็ได้” นายพิพัฒน์ กล่าว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ในยุคของตน พยามที่จะทำให้กระทรวงแรงงานเป็นกระทรวงเศรษฐกิจ
“เรากล้าประกาศว่า ประเทศไทยขาดแรงงาน เศรษฐกิจเดินหน้าไม่ได้แน่นอน ที่ใครบอกว่าการท่องเที่ยวเป็นตัวพลิกผันในการนำเงินตราเข้าประเทศ เป็นการสร้างเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยเร็วที่สุด แต่วันนี้ อีกมิติหนึ่ง ต้องบอกว่า หากสถานประกอบการ หรือแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ไม่มีชาวแรงงาน แหล่งท่องเที่ยว สถานประกอบการนั้นๆ จะขับเคลื่อนไปได้อย่างไร ชาวแรงงานจึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่เร็วที่สุด” นายพิพัฒน์ กล่าว
