“พิพัฒน์” สั่งประกันสังคมดูเเลสิทธิประโยชน์-เยียวยาเหยื่อกระสุนที่พารากอนเต็มที่
วันนี้ (4 ตุลาคม 2566) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีเหตุกราดยิงที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน เมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา ว่า ทันทีที่ทราบข่าวว่าผู้เสียชีวิตจากการกราดยิง 2 ราย เป็นชาวเมียนมาและชาวจีน ได้สั่งการให้กรมที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบทันที ซึ่งจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับสำนักงานประกันสังคม (สปส.) พบว่า ชาวเมียนมาที่เสียชีวิต เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ในส่วนของ ผู้บาดเจ็บ อีก 5 ราย พบว่าเป็นผู้ประกันตน 4 ราย แบ่งเป็น ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ที่เป็นลูกจ้างชาวไทย จำนวน 2 ราย เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ที่เป็นลูกจ้างแรงงานสัญชาติลาว จำนวน 1 ราย และเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ที่เป็นลูกจ้างชาวไทย จำนวน 1 ราย
“ในนามของกระทรวงแรงงาน ซึ่งดูแลชาวต่างชาติที่ทำงานอยู่ในประเทศไทย ขอแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียในครั้งนี้ เรามีความห่วงใยต่อชาวต่างชาติทุกคนที่เข้ามาทำงานอยู่ในประเทศไทย และขอให้เชื่อมั่นว่าเราจะดูแลและคุ้มครองแรงงานต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกคนให้เท่าเทียมกับแรงงานไทยทุกประการ ให้ความคุ้มครองตามหลักสิทธิมนุษยชน และสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย เพราะแรงงานต่างชาติทุกคนที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย คือส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายและเป็นผู้ประกันตนตามกฎหมายประกันสังคม หากเสียชีวิตจะได้รับสิทธิประโยชน์กรณีเสียชีวิตเป็นค่าทำศพ และเงินสงเคราะห์” นายพิพัฒน์ กล่าว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ในส่วนลูกจ้างที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นลูกจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัย และเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 นับเป็นการบาดเจ็บเนื่องจากการทำงาน จะได้รับเงินทดแทนร้อยละ 70 ของค่าจ้าง ขณะที่ ลูกจ้างที่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 จะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ร้อยละ 50 ของค่าจ้าง โดยผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ สปส.จะดูแลสิทธิในการรักษาพยาบาลจนสิ้นสุดการรักษาทุกราย และขณะนี้ สปส.ได้เข้าไปดูแลเรียบร้อยแล้ว
“นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้กำชับให้กระทรวงแรงงานดูแลเรื่องสิทธิประโยชน์ของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างเต็มที่ ไม่ให้ขาดตกบกพร่องใดๆ ทั้งสิ้น” นายพิพัฒน์ กล่าว
