รองอธิบดีกรมอนามัยยัน “สมุดสีชมพู” เป็นคู่มือคุณแม่ ประโยชน์มากกว่าจดประวัติวัคซีน

รองอธิบดีกรมอนามัยยัน “สมุดสีชมพู” เป็นคู่มือคุณแม่ ประโยชน์มากกว่าจดประวัติวัคซีน

วันนี้ (5 ตุลาคม 2566) นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา รองอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า กรณีในโลกโซเชียลมีการส่งต่อข้อมูลไม่ควรให้ลูกฉีดวัคซีนในเล่มสีชมพู ถือเป็นความเข้าใจที่ผิดอย่างยิ่ง เพราะความจริงแล้ว วัคซีนที่แสดงในสมุดสีชมพูเป็นวัคซีนพื้นฐานที่เด็กจำเป็นต้องได้รับ เพื่อลดอัตราการติดเชื้อโรคดังกล่าว และลดอัตราการเสียชีวิตของเด็กได้ เนื่องจากเด็กยังไม่มีภูมิคุ้มกันที่จะต่อสู้กับโรคได้ด้วยตนเอง และข้อมูลเรื่องวัคซีนดังกล่าว จะปรับปรุงให้ทันการระบาดของโรคอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดเพื่อมุ่งหวังให้เด็กไม่ติดโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน

นพ.เอกชัย กล่าวว่า สมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็ก (สมุดสีชมพู) เป็นมากกว่าสมุดฉีดวัคซีน แต่มีสาระสำคัญสำหรับพ่อแม่ และผู้ปกครอง ในการดูแลสุขภาพเด็ก เริ่มตั้งแต่หญิงตั้งครรภ์ ที่เข้ารับบริการฝากครรภ์ที่สถานบริการ จะมีข้อมูลบันทึกการตรวจครรภ์ การคัดกรองความเสี่ยงสำหรับหญิงตั้งครรภ์ เช่น คัดกรองโรคติดเชื้อไวรัสซิกา ความเสี่ยงของโรคธาลัสซีเมีย ช่วยประเมินภาวะโภชนาการ หญิงตั้งครรภ์ เปรียบเทียบค่าดัชนีมวลกาย การนับลูกดิ้น การประเมินสุขภาพจิต และบันทึกการเยี่ยม หลังคลอด สำหรับลูกน้อยจะมีแบบบันทึกเพื่อประเมินสุขภาพ ตั้งแต่แรกเกิด ถึง 6 ปี มีกราฟสำหรับจดบันทึก และประเมินภาวะการเจริญเติบโตและพัฒนาการ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน ปริมาณอาหาร ที่เหมาะสมสำหรับแต่ละช่วงวัย การประเมินความเสี่ยงฟันผุ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีข้อแนะนำ ด้านการเสริมพัฒนาการ การป้องกันโรคต่างๆ เช่น โรคไข้หวัด โรคมือ เท้า ปาก โรคอุจจาระร่วง ซึ่งเป็นข้อมูลพื้นฐานสำคัญที่คุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครอง ต้องรู้ในการเลี้ยงลูก

Advertisement

“ประเทศไทยเริ่มใช้สมุดสีชมพูตั้งแต่ปี 2528 และปรับปรุงทุก 3 ปี ซึ่งกรมอนามัยได้ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มอบสมุดสีชมพูแก่หญิงตั้งครรภ์ทุกคน เพื่อเฝ้าระวังสุขภาพของตนเองและลูกน้อย ให้มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์มีพัฒนาการสมวัย สร้างศักยภาพประชาชนทุกช่วงวัยให้มีสุขภาพดี กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะผู้รับผิดชอบหลักในการพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านสุขภาพของประชาชนไทย ปัจจุบัน ได้พัฒนาให้เป็นสมุดสุขภาพแบบดิจิทัล ที่ได้เปิดตัวไปล่าสุด เพื่อให้เข้าถึงประชาชนได้ง่ายมากขึ้น” นพ.เอกชัย กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image