สสส.ห่วงผลกระทบขยายเวลาขายน้ำเมา แนะประเมินสมดุลสุขภาพ-เศรษฐกิจ
เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ที่จังหวัดน่าน นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการพัฒนาระบบสุขภาพ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวถึงนโยบายขยายเวลาเปิดผับบาร์ถึงตี 4 ของรัฐบาล ระหว่างลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงาน “น่านสร้างสุข Model” ปลูกพลังบวกเด็กปฐมวัยภูมิคุ้มกันปัจจัยเสี่ยงองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านส้าน อ.เวียงสา จ.น่าน ว่า รัฐบาลมีเป้าหมายสร้างการเติบโตของประเทศ แต่การจะทำให้ประเทศเติบโต ควรคำนึงถึงการขับเคลื่อนให้เป็นสังคมสุขภาวะ รัฐบาลจะต้องชั่งน้ำหนักสมดุลระหว่างผลกระทบสุขภาพกับเศรษฐกิจ
นพ.พงศ์เทพ กล่าวว่า ทั้งนี้ สสส.เป็นหน่วยงานเชิงความรู้ สร้างความตระหนักรู้ จึงอยากให้คนในสังคมหันมาสนใจเรื่องสุขภาวะ เพราะฉะนั้น ในการพิจารณาเรื่องนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ข้อมูลมาทางวิชาการประกอบการพิจารณาว่า ขณะนี้ปัญหาของสังคม อะไรคือเรื่องใหญ่ อะไรที่ทำให้เกิดความสูญเสีย ทั้งเสียชีวิต เกิดความพิการ
“การจะมีออกกฎหมาย มาตรการมาบังคับใช้ ต้องใช้ข้อมูลวิชาการมาสนับสนุนนโยบาย เพื่อทำให้นโยบายวางอยู่ในจุดสมดุลได้ ดังนั้น จึงฝากผู้ที่จะกำหนดนโยบายจะต้องมีข้อมูลองค์ความรู้งานวิจัยมาประกอบการพิจารณาด้วย เข้าใจว่า สังคมของโลกนี้จะพยายามผลักดันและหมุนไปในทางเสรีนิยม ที่ปล่อยให้คนอิสระโดยไม่ควบคุมจำกัดอะไรอีกแล้ว แต่อย่างไรก็ดี การจะมีสุขภาพที่ดีจำเป็นจะต้องมีการควบคุมบางส่วน และทำให้สิ่งแวดล้อมเอื้อต่อสุขภาพ แต่ถ้าเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ก็ต้องเชียร์ให้คนถือเกราะขึ้นมาปกป้องตนเองอย่างที่เราทำอยู่ คือ การทำให้เด็กมีเปราะเกราะป้องกันตัวเองมีภูมิคุ้มกันต่อปัจจัยเสี่ยง” นพ.พงศ์เทพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากนโยบายนี้เดินหน้าต่อ สสส.ต้องทำงานหนักขึ้นหรือไม่ นพ.พงศ์เทพ กล่าวว่า ไม่ว่านโยบายไหนก็ตาม สิ่งที่เราจะต้องสู้ ก็ต้องสู้ต่อไป คนอยากได้ความสุขง่ายๆ สำเร็จรูปด้วยการดื่มเหล้า ดังนั้น เป็นสงครามที่ยืดเยื้อ เราจำเป็นจะต้องสู้กับการทำให้คนตระหนักรู้ ควบคุมจิตใจของตนเองว่า จะรับสิ่งเสพติดนั้นหรือไม่ หรือจะเสพอย่างเหมาะสมอย่างไร นี่เป็นสิ่งที่ สสส.จะต้องเดินหน้าอย่างเต็มกำลัง
