‘พิพัฒน์’ เผยอัดฉีดแรงงานไทยในอิสราเอล 5 หมื่นบาท/หัว ขอกลับเพิ่มขึ้นกว่าพันคน
เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ที่กระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ภายหลังได้ประกาศสร้างแรงจูงใจให้แรงงานไทยในประเทศอิสราเอลเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อความปลอดภัยเนื่องจากในระยะนี้มีการสู้รบในบางพื้นที่ และมีแนวโน้มขยายวงกว้าง ว่า เรื่องนี้เป็นดำริของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ประสงค์ให้แรงงานไทยในอิสราเอลกลับมาประเทศทุกคนเพื่อความปลอดภัย เพราะหากเกิดกรณีการยกระดับความรุนแรงไปถึงระดับภูมิภาค ที่อาจจะมีการปิดน่านฟ้า ก็จะทำให้ไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ รวมถึงเครื่องบินทั้งของกองทัพและเครื่องบินพาณิชย์ก็จะต้องหยุดบินด้วย
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า สำหรับแรงงานไทยที่ไปทำงานในอิสราเอล และเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ จะได้รับเงินชดเชยจากกองทุน 15,000 บาทต่อคน ซึ่งนายกฯ ได้ให้กระทรวงแรงงานเสนอความช่วยเหลือเพิ่มเติม เพราะบางคนเพิ่งไปทำงาน ยังหาเงินใช้หนี้ที่กู้ไปทำงานไม่หมด จึงไม่อยากกลับมา ทางกระทรวงแรงงาน เสนอไป 2 ส่วน แล้วได้รับความเห็นชอบในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) คือ 1.แรงงานไทยที่กลับมาทุกคน ทั้งที่กลับมาแล้วและกำลังจะกลับมา ตนได้ของบประมาณกลางมอบเงินเยียวให้คนละ 50,000 บาท และ 2.ขอพักชำระหนี้ทั้งต้นและดอก ในวงเงินไม่เกิน 150,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 ปี ซึ่งรวมทั้งสถาบันการเงินของรัฐและเอกชน ต้องนำหลักฐานมาแสดง ณ หย่วยงานในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน กรมการจัดหางาน (กกจ.) กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) และสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ในทุกจังหวัด
“ส่วนหนี้นอกระบบ จะต้องมีหลักฐานและหาผู้รับรองให้ได้ว่ามีการกู้เงินนอกระบบมาจริง เพื่อทำให้เกิดเป็นการกู้หนี้ในระบบได้จากธนาคารของรัฐ ไปชำระหนี้นอกระบบก่อน เพื่อบรรเทาความกังวลว่ากลับมาแล้วจะไม่มีเงินใช้หนี้ ทั้งนี้ รัฐบาลไทยได้คุยกับรัฐบาลอิสราเอลแล้วว่า หากเหตุการณ์สงบลง แรงงานที่กลับมาในช่วงสงครามจะสามารถกลับไปทำงานได้เหมือนเดิม หรือถ้าไม่อยากกลับไปทำงานที่อิสราเอล ก็ขอให้แจ้งความจำนง โดยเราจะจัดงานในต่างประเทศอื่นที่มีรายได้ใกล้เคียงกัน” นายพิพัฒน์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายพิพัฒน์ กล่าวว่า หลังจากที่ออกมาตรการเพิ่มเงินเยียวยาและการพักชำระหนี้ ก็ทำให้แรงงานไทยลงทะเบียนกลับประเทศไทยเพิ่มขึ้นกว่าพันคน ทำให้ยอดความจำนงที่จะเดินทางกลับเพิ่มขึ้นเป็นหลักหมื่นคนแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีคนที่กู้เงินเพื่อจะเดินทางไปทำงานที่อิสราเอล แต่เมื่อเกิดสงคราม ทางกระทรวงแรงงานก็ระงับการเดินทางไปอิสราเอล ทำให้เกิดหนี้สินมาแล้ว รวมถึงบางรายได้ลาออกจากงานเดิมแล้ว นายพิพัฒน์ กล่าวว่า กรณีผู้ที่ได้รับการอนุมัติแล้ว แต่ยังไม่ได้เดินทางไป ก็ขอให้มาหารือกับกรมการจัดหางาน เป็นรายๆ ไป ซึ่งเบื้องต้นจะนำเข้าหารือกับรัฐบาลเพื่อดูแลแรงงานในกลุ่มนี้ นอกจากนั้น ขอให้แจ้งมาที่กรมการจัดหางาน เพื่อหางานใหม่ในประเทศอื่นทดแทนให้ก่อน ซึ่งตอนนี้มีประมาณ 600-700 คน