‘ชลน่าน’ ทำความเข้าใจบุคลากรรัฐ-เอกชน ลุย ‘บัตรใบเดียวรักษาทุกที่’ 4จว. 4เขตสุขภาพ
วันนี้ (7 พฤศจิกายน 2566) ที่โรงแรมเอเชีย แอร์พอร์ต จ.ปทุมธานี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนนโยบายดิจิทัลสุขภาพ “บัตรประชาชนใบเดียว รักษาได้ทุกที่” ปีงบประมาณ พ.ศ.2567 โดยมี พญ.นวลสกุล บำรุงพงษ์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการ สธ. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัด สธ. ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงาน รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ โรงพยาบาลรัฐนอกสังกัด โรงพยาบาลเอกชน และสภาวิชาชีพ จากทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 500 คน เข้าร่วม
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การยกระดับโยบายยกระดับ 30 บาท “บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่”
เป็นหนึ่งในควิกวิน (Quick Win) ที่ สธ.เร่งรัดดำเนินการเพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการพัฒนาระบบสาธารณสุขของประเทศ เพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนทุกคน โดยนำระบบเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพของหน่วยบริการทุกระดับทั้งรัฐและเอกชน เพื่อให้ประชาชนได้รับการบริการที่สะดวก รวดเร็ว และยังเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับบุคลากรการแพทย์ในการเข้าถึงข้อมูลสุขภาพของประชาชน รวมถึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของหน่วยบริการให้เป็นโรงพยาบาลอัจฉริยะ (Smart Hospital) โดย สธ.จะนำร่องดำเนินการใน 4 จังหวัด คือ แพร่ เพชรบุรี ร้อยเอ็ด และ นราธิวาส ครอบคลุมทุกสิทธิการรักษาทั้งโรงพยาบาลสังกัด สธ. กระทรวงกลาโหม โรงพยาบาลเอกชน คลินิกและร้านยาที่เข้าร่วม
“นอกจากนี้ ยังดำเนินการในอีก 4 เขตสุขภาพ คือ เขตสุขภาพที่ 1 ,4, 9 และ 12 ซึ่งจะเริ่มในโรงพยาบาลสังกัด สธ.ทุกแห่งก่อน และจะขยายผลให้ครอบคลุมทั้งประเทศต่อไป” นพ.ชลน่าน กล่าว
ด้าน นพ.โอภาส กล่าวว่า การประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ครั้งนี้ เป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบบริการรองรับ “บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่” ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ 1.ระบบบันทึกข้อมูลสำหรับ
หน่วยบริการประเภทต่างๆ 2.ระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตน 3.ระบบให้บริการ และ 4.ระบบเชื่อมต่อ
กับประชาชนผ่าน LINE Official Account และ Application เพื่อเตรียมความพร้อมหน่วยบริการและบุคลากรในการจัดเตรียมระบบ วางแผนบริหารจัดการ และทดสอบการให้บริการจริงแก่ประชาชน
โดยกิจกรรมภายในงานมีการอภิปรายในหัวข้อต่างๆ อาทิ ประวัติสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์แสดงบนมือถือและสมุดสุขภาพประชาชน (Health Wallet), Data Governance : PDPA & Cyber Security, การแพทย์ทางไกลและเภสัชกรรมทางไกล, Financial Data Hub และ MOPH Claim, แนวทางการดำเนินงานการใช้ใบรับรองแพทย์ดิจิทัล ใบสั่งยา/สั่งแล็บอิเล็กทรอนิกส์ และบริการรับ-ส่งยา ทางไปรษณีย์ เป็นต้น รวมทั้งยังมีการประชุมกลุ่มย่อยระดมสมองจัดทำแผนปฏิบัติการ และนำเสนอแผนฯ แก่ผู้บริหารและผู้ทรงคุณวุฒิอีกด้วย