ก.แรงงาน จับมือ IJM พัฒนาศักยภาพ จนท.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ฯ

ก.แรงงาน จับมือ IJM พัฒนาศักยภาพ จนท.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ฯ

เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้
นายวรรณรัตน์ ศรีสุขใส รองปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อประเมินผลระหว่างดำเนินงาน (Mid-term Assessment) โครงการพัฒนาศักยภาพของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการป้องกันและปราบปราบการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน/บังคับใช้แรงงานหรือบริการ โดยมี ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน Ms.Christa Sharpe ผู้อำนวยการไอเจเอ็ม ประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค เข้าร่วม ณ โรงแรมอมารี ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร

นายวรรณรัตน์กล่าวว่า ตามที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาได้เผยแพร่รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ ประจำปี 2566 (TIP Report 2023) เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2566 โดยประเทศไทยได้รับการจัดระดับให้อยู่ใน Tier 2 ติดต่อเป็นปีที่ 2 ซึ่งรายงานดังกล่าวยังคงมีข้อเสนอแนะ ให้มีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ให้สามารถนำแนวปฏิบัติตาม มาตรา 6/1 พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ไปใช้ในการคัดแยกผู้เสียหายอย่างมีประสิทธิภาพ กำหนดให้ทีมสหวิชาชีพประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ที่ผ่านการฝึกอบรมและมีประสบการณ์เพียงพอในการปฏิบัติงานด้านการค้ามนุษย์ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการคัดแยกผู้เสียหาย และเสริมสร้างความตระหนักรู้ให้แก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้เข้าใจข้อบ่งชี้ของการค้ามนุษย์ เช่น การบังคับทำงานใช้หนี้ การทำงานเกินเวลามากเกินจำเป็น การยึดเอกสารของลูกจ้างและการทำงานโดยไม่จ่ายผลตอบแทน

Advertisement

นายวรรณรัตน์กล่าวว่า กระทรวงแรงงาน ภายใต้การนำของ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ให้ความสำคัญกับการต่อต้านการค้ามนุษย์ ภายใต้ยุทธศาสตร์ 20 ปี ด้านความมั่นคง โดยรับผิดชอบเป็นเจ้าภาพหลักในการป้องกันการค้ามนุษย์ของประเทศไทย ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่ได้กำหนดเป็นวาระแห่งชาติ ในการยกระดับมาตรฐานการคุ้มครองดูแลและป้องกันไม่ให้แรงงานไทยและแรงงานต่างด้าวตกเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ในปี 2565 กระทรวงแรงงานได้จัดทำมาตรฐานการปฏิบัติงาน (SOP) และมอบหมายให้หน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคนำมาตรฐานการปฏิบัติงาน (SOP) ในการคัดกรองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ด้านแรงงานและการบังคับใช้แรงงานและการนำแผนปฏิบัติการว่าด้วยกลไกการส่งต่อระดับชาติฯ (NRM) นำไปใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการบังคับใช้แรงงาน หรือบริการและการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการคัดแยกผู้เสียหายจากการบังคับใช้แรงงานและการค้ามนุษย์ด้านแรงงานร่วมกับทีมสหวิชาชีพ ซึ่งเป็นการยกระดับการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ของประเทศไทยให้เทียบเท่ากับมาตรฐานขั้นต่ำในกฎหมายคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ค.ศ.2000 (TVPA) ของประเทศสหรัฐอเมริกา

Advertisement

นายวรรณรัตน์กล่าวว่า การจัดทำมาตรฐานการปฏิบัติงาน (SOP) ดังกล่าว ได้รับความร่วมมือจากมูลนิธิ IJM และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันในการแก้ไขปัญหาการบังคับใช้แรงงานและค้ามนุษย์ด้านแรงงาน ซึ่งสอดคล้องกับจุดประสงค์ในการดำเนินงานของไอเจเอ็ม จึงได้มีความร่วมมือผ่าน “โครงการพัฒนาศักยภาพของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการป้องกันและปราบปราบการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน/บังคับใช้แรงงาน หรือบริการ” เพื่อขับเคลื่อนนโยบายในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงานไปสู่การปฏิบัติในพื้นที่ และการดำเนินโครงการที่ผ่านมา ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากภาคีเครือข่ายต่างๆ ที่ร่วมประชุมในวันนี้ ในการประเมินผลการนำมาตรฐานการปฏิบัติงาน (SOP) ไปใช้ในพื้นที่ การปรับปรุงให้เหมาะสมและสอดคล้องกับการปฏิบัติงาน และตอบสนองตามแผนปฏิบัติการว่าด้วยกลไกการส่งต่อระดับชาติ (NRM)

“การจัดประชุมในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานสามารถคัดกรอง คัดแยกและสืบสวนสอบสวนกรณีแรงงานบังคับและค้ามนุษย์ด้านแรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมาตรฐาน โดยสอดคล้องกับ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยยึดผู้เสียหายเป็นศูนย์กลางและคำนึงถึงบาดแผลทางจิตใจ ตลอดจนเพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้แสดงความคิดเห็นเพื่อประเมินผลการดำเนินงานโครงการตั้งแต่เริ่มโครงการถึงปัจจุบัน และรวบรวมข้อเสนอแนะในการดำเนินโครงการในช่วงปีถัดไป
ที่สอดคล้องและส่งเสริมแนวทางและนโยบายของหน่วยงานในการขจัดการบังคับใช้แรงงานและการค้ามนุษย์ด้านแรงงานในประเทศไทยต่อไป” นายวรรณรัตน์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image