บอร์ด สปสช.เพิ่มยา ‘ไรโบไซคลิบ’ ช่วยผู้ป่วยบัตรทองรักษามะเร็งเต้านมระยะลุกลาม

บอร์ด สปสช.เพิ่มยา ‘ไรโบไซคลิบ’ ช่วยผู้ป่วยบัตรทองรักษามะเร็งเต้านมระยะลุกลาม

เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้มีมติชอบเห็นชอบให้เพิ่มเติมรายการ “ยาไรโบไซคลิบ” (Ribociclib) เข้าไปอยู่ในแผนจัดซื้อยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จําเป็นตามโครงการพิเศษ เพื่อรักษาผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะลุกลามในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง 30 บาท ซึ่งจะเป็นการดูแลผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะลุกลามให้เข้าถึงการรักษาเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ที่ประชุมยังมอบหมายให้ สปสช.ติดตามการเข้าถึงยาและการใช้ยาไรโบไซคลิบนี้อย่างใกล้ชิด และรายงานสถานการณ์ต่อบอร์ด สปสช.ผ่านคณะอนุกรรมการกำหนดประเภทและขอบเขตในการให้บริการสาธารณสุข และคณะอนุกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์การดําเนินงานและการบริหารจัดการกองทุนทุก 6 เดือน

“จากมติบอร์ด สปสช.ครั้งนี้ จะทำให้ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะลุกลามสามารถเข้าถึงยาไรโบไซคลิบได้ จากแต่เดิมที่ผู้ป่วยสิทธิบัตรทองยังเข้าไม่ถึงยารักษานี้ ด้วยเป็นยาใหม่ที่มีราคาแพง นอกจากนี้ ยังเป็นส่วนที่สนับสนุนนโยบายมะเร็งครบวงจร เพื่อยกระดับ 30 บาท Upgrade ภายใต้ Quick win ด้านสาธารณสุขของรัฐบาล ในการดูแลผู้ป่วยมะเร็งให้ได้รับบริการอย่างมีคุณภาพและมาตรฐาน รวมถึงยาที่มีประสิทธิภาพในปีงบประมาณ 2567” นพ.ชลน่านกล่าว

ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตามแผนการจัดซื้อยาของ สปสช.ในปีงบประมาณ 2567 ได้มีแผนที่จะจัดซื้อ ยานิโลตินิบ (nilotinib) ซึ่งเป็นยารักษามะเร็งเม็ดเลือดขาว จำนวน 14,500 กล่อง รวมงบประมาณราว 301.63 ล้านบาทต่อมา บริษัทที่จำหน่ายยามะเร็งดังกล่าวนี้ ได้นำเสนอยาไรโบไซคลิบที่เป็นยาใหม่สำหรับการรักษาผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะลุกลามเข้าสู่ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยเสนอปรับลดราคายานิโลตินิบ และยาไรโบไซคลิบ จากข้อเสนอดังกล่าวนี้ ทำให้ สปสช.จัดซื้อยานิโลตินิบได้จำนวนเท่าเดิม ในราคาที่ลดลง ขณะเดียวกัน ได้จัดซื้อยาไรโบไซคลิบสำหรับดูแลผู้ป่วย 876 คน รวมจำนวน 25,404 กล่อง โดยเมื่อรวมมูลค่าการจัดซื้อยา 2 รายการนี้ เป็นงบประมาณ 252.84 ล้านบาท ซึ่งประหยัดงบประมาณจากวงเงินเดิมที่เตรียมจัดซื้อได้ 48.78 ล้านบาท

Advertisement

“ที่ประชุมบอร์ด สปสช.พิจารณาแล้วเห็นว่าข้อเสนอนี้จะทำให้ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมสามารถเข้าถึงยาได้มากขึ้น ในขณะที่ใช้งบประมาณภายใต้วงเงินเดิมที่เตรียมไว้ จึงได้เห็นชอบให้ยาไรโบไซคลิบ เป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยมอบหมายคณะอนุกรรมการจัดทำแผนการจัดซื้อยาฯ ปรับแผนจัดซื้อยานิโลตินิบตามราคาที่บริษัทเสนอ และทยอยจัดซื้อยาไรโบไซคลิบ โดยให้วงเงินรวมของยา 2 รายการ ไม่เกินวงเงินตามแผนจัดซื้อยานิโลตินิบเดิม” นพ.จเด็จกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image