กรมอุทยานฯ ตรวจเข้ม นทท. เข้าเที่ยว ‘ปลอดเหล้า’ เผยเคยมีเคส ‘เมาดับคาน้ำตก’ มาแล้ว

กรมอุทยานฯ ตรวจเข้ม นทท. เข้าเที่ยว ‘ปลอดเหล้า’ เผยเคยมีเคส ‘เมาดับคาน้ำตก’ มาแล้ว ขอความร่วมมือร้านค้า อย่าขายในเขตท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน สัตว์ป่าและพันธ์พืช ร่วมกับ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมจัดเวทีประชุมเชิงปฏิบัติการถอดบทเรียน “ไม่ขาย ไม่ดื่มในเขตอุทยานฯ และพื้นที่สาธารณะ” ตามประกาศกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ปี 2564 ภายใต้พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 และ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 เพื่อแลกเปลี่ยนวิธีการ ปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้า

ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ประธานเครือข่ายงดเหล้า กล่าวว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ส่งผลเสียถึงสังคมหลายมิติ เช่น ความรุนแรงในครอบครัว ทำให้เด็กเสียอนาคต และอุบัติเหตุทางถนน สำหรับผลกระทบจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในอุทยานฯ ผู้ดื่มจะส่งเสียงดังสร้างความรำคาญแก่บุคคลอื่น นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต้องการความสงบ ซึ่งประกาศกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ห้ามมิให้นำเข้าไปหรือจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภทในอุทยานแห่งชาติ ผู้ฝ่าฝืนมีโทษ “จำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” การดื่มในที่สาธารณะและการดื่มในที่อุทยานฯ ยังนำมาซึ่งปัญหาขยะโดยเฉพาะเศษแก้ว ซึ่งการรณรงค์ช่วยจัดการสภาพแวดล้อม และจัดการขยะอีกด้วย

นายสุรเชษฐ์ พินิจงาม ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย กล่าวว่า ภาคเหนือมีป่าที่อุดสมบูรณ์ มีอุทยานขนาดใหญ่หลายอุทยาน และมีระบบการบริหารจัดการที่ดี สำหรับการร่วมจัดเวทีถอดบทเรียน “ไม่ขาย ไม่ดื่มในเขตอุทยานฯ และพื้นที่สาธารณะ” ตามประกาศกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อบุคลากรของอุทยานฯ ที่จะได้ทบทวนความรู้และทำความเข้าใจในแนวทางปฏิบัติให้เกิดการดำเนินงานเสริมประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งการดำเนินงานของอุทยานฯ ส่วนใหญ่จะมีการดำเนินการติดป้ายประชาสัมพันธ์ในจุดต่างๆ และจัดเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้แก่นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะก่อนเข้าอุทยาน นอกจากนี้ยังมีการประชาสัมพันธ์ในช่องทางออนไลน์ของอุทยาน ตลอดจนรณรงค์โครงการขยะคืนถิ่น เพื่อให้นักท่องเที่ยวมีส่วนร่วมในการจัดเก็บขยะที่นำเข้ามาเพื่อร่วมดูแลธรรมชาติร่วมกัน

Advertisement

นายวัลลภ มังทา ผู้เข้าร่วมจากอุทยานแห่งชาติออบขาน กล่าวว่า อช.ออบขาน มีทางเข้าออกทางเดียว จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าฟรี แต่นักท่องเที่ยวต้องลงทะเบียนและให้ความร่วมมือในการให้ตรวจค้น รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อุปสรรคที่เป็นอุทยาน (เตรียมการ) ทำให้ไม่สามารถใช้ประกาศของอุทยานเรื่องห้ามมิให้นำเข้าหรือจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภทในอุทยานแห่งชาติได้ จึงเน้นการตรวจค้นนักท่องเที่ยวก่อนขึ้นอุทยาน ถ้าพบว่ามีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะให้นักท่องเที่ยวฝากเครื่องดื่มดังกล่าวไว้ที่จุดตรวจ ในช่วงฤดูท่องเที่ยว (high season) ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ซึ่งทำให้ไม่สามารถตรวจนักท่องเที่ยวได้อย่างทั่วถึง อุทยานจัดให้เจ้าหน้าที่เดินตรวจวันละ 2 รอบ ถ้าพบว่ามีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะเข้าไปเตือน และขอเก็บไปไว้เมื่อนักท่องเที่ยวกลับสามารถไปรับคืนได้

“สำหรับการห้ามดื่มหรือนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีดำเนินงานอย่างเข้มข้นตั้งแต่ปี 2563 มีการทำงานกันหนักมาก เพราะนักท่องเที่ยวยังไม่รับรู้ บางส่วนดื่มก่อนเข้าไปอุทยานแล้วไปเล่นน้ำในเขตอุทยาน ซึ่งเมื่อสิบปีก่อนมีนักท่องเที่ยวที่ดื่มแล้วไปเล่นน้ำในอุทยานแล้วเสียชีวิตด้วย” นายวัลลภกล่าว

นายฐานันดร ตั้งสงบ ตำแหน่งพนักงานพิทักษ์ป่า อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เปิดเผยว่า อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์เป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาว ส่วนในฤดูร้อนจะมาเที่ยวน้ำตกนักท่องเที่ยวมีเป้าหมายว่าจะมาดื่มที่น้ำตก ด้วยมีทางเข้าออก 16 ช่องทาง และมีชุมชนรอบข้าง 36 ชุนชน จึงยากต่อการตรวจค้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งนี้ได้ทำความเข้าใจกับร้านค้าและมีสายตรวจไปสุ่มซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถ้าพบว่ามีการขายก็จะยกเลิกสิทธิในการจำหน่ายของร้านค้านั้นๆ  สำหรับการมีประกาศ พ.ร.บ. อุทยานฯ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาการดื่มในอุทยานและการส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่นจะลดลง สำหรับการไม่ดื่มเหล้าในเขตอุทยานมีข้อดีหลายประกาศ เช่น ลดการขับรถเร็ว นักท่องเที่ยวสามารถดูแลตัวเองได้ซึ่งทำให้ภาระงานของเจ้าหน้าที่ลดลด และทำให้ปริมาณขยะลดลงด้วย

Advertisement

ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมจาก อุทยานเข้าร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 7 แห่ง ซึ่งประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย, อุทยานแห่งชาติออบขาน (เตรียมการ), อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า, อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์, อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน, อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว, และอุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image