พม.ขอคนไทยอย่าใจดี หยุดให้เงิน ‘ขอทาน’ เผยคืนสู่ครอบครัวแล้ว 3 พันคน
เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน นางจตุพร โรจนพานิช อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงกรณีการขอทานในประเทศไทย ที่มีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงกลุ่มขบวนการขอทาน ว่า ด้วยเหตุที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ทำให้สังคมตั้งคำถามถึง พม.ว่า จะทำอย่างไร
“จึงอยากเสนอให้ทุกฝ่ายร่วมกันทำในมิติเชิงป้องกัน ซึ่งจะดีกว่า ที่สามารถเริ่มได้จากตัวเรา คือ การหยุดให้เงินขอทาน และกลับมาตั้งข้อสังเกตเมื่อเห็นคนขอทาน ควรจะแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาได้เลย อย่าง พม.เองนั้น นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการ พม.ได้กำชับว่า เราต้องรับผิดชอบ หากมีผู้แจ้งมา ก็จะต้องตอบสนองภายใน 24 ชั่วโมง ด้วยทีมเคลื่อนที่เร็ว เพราะหากไปช้ากว่านี้ อาจจะมีการเคลื่อนจุดของขอทานได้ ทำให้ไม่เจอตัว คนไทยเป็นคนใจดีใจบุญ เห็นคนน่าสงสารกว่า เราก็อยากจะช่วยเหลือ ซึ่งเป็นธรรมชาติของคนไทย แต่จริงๆ ความใจบุญ ใจดี โดยเฉพาะการให้ทานในลักษณะนี้ เราต้องเข้าใจก่อนว่า การขอทาน เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ฉะนั้น ถ้าเราไปส่งเสริม ไปทำบุญด้วยการให้เงิน ขอทานจะไม่หมดไปจากประเทศ ต้องเน้นในเชิงป้องกัน ถึงแม้เขามานั่งขอทาน แต่ถ้าเราไม่ให้ ก็ไม่ก่อให้เกิดรายได้กับเขา ถ้ายังมีคนใจบุญคอยให้ ก็จะยิ่งเป็นการส่งเสริมให้คนกระทำผิดกฎหมายด้วย” นางจตุพรกล่าว
อย่างไรก็ตาม นางจตุพรกล่าวว่า ขอทานในประเทศไทยที่มีกว่า 5,000 คนนั้น มีทั้งรูปแบบของการออกมาขอทานเอง และรูปแบบขบวนการ และจากที่เราทำงานร่วมกันมานั้น สามารถทำให้กว่า 3,000 คน กลับไปสู่ครอบครัวได้ และอีกประมาณกว่า 1,000 คน ที่มาขอรับความคุ้มครองในสถานคุ้มครอง ดังนั้น ถ้าแก้จากต้นเหตุ ก็จะแก้ปัญหาได้
“เราได้มีการแยกขอทานออกจากผู้แสดงความสามารถพิเศษ ซึ่งเราเห็นจากสถิติชัดว่า เมื่อแยกออกจากกันแล้ว ผู้แสดงความสามารถพิเศษ ที่มีการทดสอบและมีการติดบัตรขึ้นทะเบียนแสดงความสามารถพิเศษ ในพื้นที่ที่เราประกาศอย่างถูกกฎหมาย ปัจจุบันมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นด้วยซ้ำ และตัวเลขขอทานก็ลดลงด้วย โดยเฉพาะช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่เมื่อผ่านช่วงโควิด-19 มาแล้ว อาจจะเป็นเรื่องของสถานะการงาน เช่น ตกงาน เลิกจ้าง ว่างงาน ฯลฯ ทำให้สถิติขอทานไทยกลับเพิ่มสูงขึ้นมา” นางจตุพรกล่าว
