โรงเรียน-รพ.ทั้งรัฐและเอกชน แห่ประกาศ ‘เตือนภัยโรคไอกรน’ หลังพบผู้ป่วยพุ่ง

เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีการเสนอข่าวเรื่องการระบาดของโรคไอกรนในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย โดยล่าสุดมีผู้ป่วยสะสม 183 ราย และเสียชีวิต 2 ราย ซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบนั้น ทำให้หน่วยงานต่างๆ ออกประกาศเตือนภัยโรคระบาดไอกรนอย่างต่อเนื่อง เช่น โรงพยาบาลของรัฐ โรงพยาบาลเอกชน ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม โรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ ผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก TikTok และอื่นๆ พร้อมร่วมรณรงค์ให้หญิงตั้งครรภ์เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไอกรน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับทารกในครรภ์ โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีอัตราความครอบคลุมของวัคซีนต่ำกว่า 80% และมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว “มติชน” ว่าเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย เสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดดอนมูล ต.ดู่ใต้ อ.เมือง จ.น่าน ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินสภากาชาดไทย ประจำปี 2566 ซึ่งตนได้มีโอกาสเฝ้าฯพระองค์ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการ สธ. พระองค์ทรงติดตามข่าวด้านการสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด จึงมีพระราชกระแสถามถึงเรื่องการระบาดของโรคไอกรนที่พบในเด็กมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ พระองค์ทรงห่วงในเรื่องนี้อย่างมาก

ต่อมา ในวันที่ 2 ธันวาคม นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไอกรน ในประเทศไทย มีจำนวนผู้ติดเชื้อโรคไอกรนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้จำนวนมาก มีผู้ป่วยยืนยันมากกว่า 100 ราย ซึ่งผู้ป่วยทุกรายเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีนมาก่อน และรายงานข้อมูลยืนยันว่า มีเด็กอายุเพียง 18 วัน เสียชีวิตจากการติดเชื้อไอกรนแล้ว จำนวน 1 ราย

“รัฐบาลห่วงใยปัญหาความปลอดภัยในชีวิต และสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะผลกระทบจากโรคต่อเด็ก แนะนำให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยป้องกันโรคไอกรน สิ่งสำคัญที่สุดคือ การฉีดวัคซีน แต่ถ้ามีการติดเชื้อแล้วก็ต้องรักษาตามอาการ เพราะเป็นโรคที่รักษาได้ แต่จะต้องไปพบแพทย์ให้ทันเวลา เพื่อรับการวินิจฉัยโรคอย่างรวดเร็วป้องกันเชื้อลงปอด” นายคารมกล่าว

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image