ชลน่าน ขอคนไทยร่วมใจมีลูก เผย สธ. พร้อมส่งเสริมด้านสุขภาพ จับมือหน่วยงานอื่นหนุนดูแลด้านสังคม จ่อเสนอให้เรียนจบถึง ป.ตรี
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 6 ธันวาคม ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหารกระทรวงฯ ร่วมประชุมสัญจรผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขับเคลื่อนการส่งเสริมเพิ่มเด็กไทยเกิดดีมีคุณภาพ หรือ Give Birth Great World ผ่านสัญลักษณ์ปลาตะเพียน จากนั้นเวลา 10.00 น. ได้ขึ้นรถไฟไปยัง จ.พระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่เยี่ยมชมกิจกรรมสาธิต (Show Case) วิถีชีวิตชุมชนเรือนแสนสุขต้นแบบส่งเสริมการมีบุตร ณ บ้านไทยไออุ่น บางปะอิน พร้อมเป็นประธานในพิธีเปิดป้าย “คลินิกส่งเสริมการมีบุตร” ที่ โรงพยาบาล (รพ.) พระนครศรีอยุธยา
นพ.ชลน่านกล่าวว่า การใช้ปลาตะเพียนเป็นสัญลักษณ์ในการรณรงค์ส่งเสริมการมีบุตร สืบเนื่องมาจากวัฒนธรรมของไทยตั้งแต่โบราณที่ใช้ปลาตะเพียนในการเลี้ยงลูกไกวเปลแสดงให้เห็นถึงความเคลื่อนไหว ซึ่งส่วนนี้จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเด็กในการใช้สายตา ทำให้ปลาตะเพียนมีความหมายถึง “การเกิด” นอกจากนั้นยังเป็นสัตว์ที่มีความมงคล แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ วันนี้เราใช้คำขวัญว่า Give Birth Great World เพื่อให้การเกิดเป็นความยิ่งใหญ่ของโลก สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการมีบุตรอย่างมีคุณภาพ โดยการเลือกจุดเริ่มต้นคือสถานีรถไฟหัวลำโพง เดินทางมายัง จ.อยุธยา ที่เป็นจุดหมายในการขับเคลื่อนนโยบาย เนื่องจากมีความเชื่อมต่อของเส้นทางสู่การรณรงค์ขับเคลื่อนนโยบาย ทั้งนี้ จ.อยุธยา ไม่ใช่จุดหมายปลายทางสุดท้ายแต่จะต้องขยายนโยบายนี้ไปยังพื้นที่อื่นๆ โดยมุ่งเน้นไปที่ฐานราก ซึ่งเป้าหมายคือทุกจังหวัดจะต้องมีคลินิกส่งเสริมการมีบุตร ตอนนี้เปิดให้บริการแล้วร้อยละ 80 รองรับประชาชนในทุกสิทธิการรักษา
“การมีลูกเราต้องเริ่มปรับกันใหม่ ต้องเริ่มจาก mindset กันใหม่ทั้งหมด ให้เห็นว่าการเกิดเป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ และผู้ให้กำเนิดคือผู้ที่มีคุณค่า โดย สธ.จะผลักดันเรื่องนี้ให้เป็นวาระแห่งชาติ โดยใช้ยุทธศาสตร์อนามัยเจริญพันธุ์ ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมอนามัยเจริญพันธุ์ ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการมาชุดหนึ่ง โดยมีอธิบดีกรมอนามัยเป็นประธาน ซึ่งร่วมกับอีกหลายกระทรวงทั้ง กระทรวงมหาดไทย (มท.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพื่อทำแผนขึ้นมา เสริมสร้างความมั่นใจว่าลูกเกิดรอดแม่ปลอดภัย ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องเชื่อมโยงกันหมด จากนั้นก็จะนำไปสู่การพิจารณาของท่านนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเห็นชอบประกาศเป็นวาระแห่งชาติต่อไป โดยเรื่องนี้เป็น 1 ในนโยบายเร่งด่วน (Quick Win) ที่เราประกาศว่าจะต้องเริ่มดำเนินการภายใน 100 วัน” นพ.ชลน่านกล่าว
เมื่อถามถึงข้อเสนอที่จะสนับสนุนเงินอุดหนุนการมีบุตรมากขึ้น นพ.ชลน่านกล่าวว่า เป็นหนึ่งในแนวคิดที่จะส่งเสริมด้านเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งเป็นหน้าที่ของกระทรวงที่เกี่ยวข้องที่ร่วมอยู่ในคณะกรรมการฯ ด้วย ส่วน สธ. เราก็จะดูแลด้านสุขภาพทั้งแม่และเด็ก เช่นตอนนี้เราเพิ่มการคัดกรองโรคหายาก หรือโรคทางพันธุกรรมเป็น 40 รายการ เพื่อให้ดูแลรักษาได้ทันเวลา
ถามต่อว่านโยบายนี้รองรับสำหรับกลุ่ม LGBT+ ที่อยากมีลูกด้วยหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า แน่นอน เพราะตอนนี้มติ ครม. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สมรสเท่าเทียมแล้ว ก็เตรียมเข้าสภาอย่างเดียว นอกจากนั้น สิทธิประโยชน์ต่างๆ จะครอบคลุมไปถึงกลุ่มผู้ที่มีบุตรยากด้วย เช่น การดูแลผู้ที่มีบุตรยาก ซึ่งเรากำลังจะเพิ่มเรื่องนี้เข้าไปในชุดสิทธิประโยชน์ของหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ด้วย
เมื่อถามถึงสวัสดิการอื่นๆ ที่จะกระตุ้นให้คนอยากมีบุตรมากขึ้น รมว.สธ.กล่าวว่า ขณะนี้เรากำลังดูถึงสวัสดิการให้เด็กได้เรียนจบปริญญาตรีได้หรือไม่อย่างไร ซึ่งขึ้นอยู่กับแผนในอนาคต
