พรุ่งนี้! สบส.-สพฉ.สอบ รพ.วิภาราม ปฏิเสธผู้ป่วยต่างชาติจนเสียชีวิต ‘ชลน่าน’ สั่งเอาผิดถึงที่สุด

พรุ่งนี้! สบส.-สพฉ.สอบ รพ.วิภาราม ปฏิเสธผู้ป่วยต่างชาติจนเสียชีวิต ‘ชลน่าน’ สั่งเอาผิดถึงที่สุด

จากกรณีข่าวนักท่องเที่ยวชาวไต้หวันถูกรถเฉี่ยวชนจนหมดสติ ทีมกู้ชีพของมูลนิธิได้ช่วยทำ CPR และนำส่งโรงพยาบาลเอกชนย่านพัฒนาการ ซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุประมาณ 500 เมตร แต่ถูกปฏิเสธรับตัวผู้ป่วยและให้นำส่งโรงพยาบาลรัฐที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 10 กิโลเมตรแทน ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตระหว่างนำส่งนั้น

วันที่ 12 ธันวาคม 2566 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ทันทีที่ได้รับรายงานกรณีดังกล่าว ได้สั่งการให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) และสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร่งด่วนแล้ว ซึ่งหากพบว่าโรงพยาบาลมีการปฏิเสธรับผู้ป่วยจริงตามที่เป็นข่าว จะถือว่ามีความผิดทั้งหลักมนุษยธรรมและหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด

“เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบใน 2 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1.ในเวลาที่ผู้ป่วยถูกส่งตัวมาถึงโรงพยาบาล ได้มีการประเมินและช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน ซึ่งอยู่ในสภาพอันตรายและจำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลเพื่อให้พ้นจากอันตรายตามมาตรฐานวิชาชีพ หรือถ้ามีความจำเป็นต้องส่งต่อเพื่อไปรับการรักษาพยาบาลที่สถานพยาบาลอื่น ได้จัดให้มีการส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลอื่นอย่างเหมาะสมหรือไม่ และ 2.โรงพยาบาลมีการประเมินผู้ป่วยว่าเข้าข่ายฉุกเฉินวิกฤต ตามนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตมีสิทธิทุกที่ (UCEP) หรือไม่ ทั้งนี้ ยืนยันว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติทุกคนที่เดินทางเข้ามาเยือนประเทศไทย จะไม่ปล่อยให้ไม่ได้รับความปลอดภัย หรือถูกกระทำการใดๆ ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายโดยเด็ดขาด” นพ.ชลน่านกล่าว

ADVERTISMENT

ด้าน นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดี สบส. กล่าวว่า ตามที่มีคลิปวิดีโอปรากฏเป็นข่าวเมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา ว่าพบชาวต่างชาติหมดสติโดยไม่ทราบสาเหตุอยู่บริเวณพัฒนาการ 50 ทางศูนย์วิทยุพระนคร จึงนำผู้ป่วยส่งต่อไปที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ในย่านพัฒนาการ แต่ถูกปฏิเสธ ให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลรัฐแทน ดังนั้น ในวันที่ 9 ธันวาคม ตนจึงมอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่กองกฎหมาย สบส. ดำเนินการตรวจสอบ โดยประสานข้อมูลจากศูนย์วิทยุพระนคร และศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งเจ้าหน้าที่รายงานว่า ได้นำส่งผู้ป่วยชาวต่างชาติ ณ โรงพยาบาล (รพ.) วิภาราม แต่เจ้าหน้าที่แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาล ปฏิเสธที่จะให้บริการรักษาพยาบาลผู้ป่วย เนื่องด้วย ผู้ป่วยไม่มีญาติ จึงอาจจะเบิกค่ารักษาพยาบาลไม่ได้ จึงได้มีการนำตัวผู้ป่วยส่งต่อไปยัง รพ.สิรินธร และผู้ป่วยรายดังกล่าวได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

“โดยในวันที่ 10 ธันวาคม พนักงานเจ้าหน้าที่กองกฎหมาย ได้ดำเนินการยืนยันข้อมูลกับ สพฉ.อีกครั้ง และพบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นความจริง จึงมีการหารือร่วมกันระหว่าง สบส.และ สพฉ.เพื่อร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงาน จะร่วมกันลงพื้นที่ ณ รพ.วิภาราม ในวันพรุ่งนี้ (13 ธันวาคม 2556) โดยจะมีการตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ และสอบถ้อยคำจากเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุอย่างถี่ถ้วน เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทั้ง 2 ฝ่าย” นพ.สุระกล่าว

ADVERTISMENT

อธิบดี สบส.กล่าวว่า หากพบข้อมูลการกระทำผิด หรือพยานหลักฐานที่เชื่อได้ว่า รพ.วิภาราม มีการปฏิเสธการรักษาผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตจริง ถือเป็นการกระทำที่ผิดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถานพยาบาล พ.ศ.2541 มาตรา 36 ที่กำหนดให้ผู้รับอนุญาตประกอบกิจการ หรือผู้ดำเนินการสถานพยาบาล ผู้รับอนุญาตและผู้ดำเนินการของสถานพยาบาลต้องควบคุมและดูแลให้มีการช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ป่วย ซึ่งอยู่ในสภาพอันตรายและจำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลโดยฉุกเฉิน เพื่อให้ผู้ป่วยพ้นจากอันตรายตามมาตรฐานวิชาชีพและตามประเภทของสถานพยาบาลนั้นๆ โดยผู้กระทำผิดจะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image