สธ.มั่นใจแฮกเกอร์โจมตีระบบ รพ.ไม่กระทบ ‘บัตร ปชช.ใบเดียว’ เล็งสำรองข้อมูล
เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมเปิดนโยบายบัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่นำร่องใน 4 จังหวัด ว่า นโยบายบัตรใบเดียวเข้าสถานพยาบาลได้ทุกที่ จะนำร่องใน 4 จังหวัด คือ แพร่ เพชรบุรี ร้อยเอ็ด และนราธิวาส ซึ่งจะมีการคิกออฟ ในวันที่ 8 มกราคม 2567 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับพี่น้องประชาชน โดยเลือก จ.ร้อยเอ็ด เปิดงานแบบออนไซต์ และในอีก 3 จังหวัดจะเปิดงานผ่านระบบออนไลน์
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่าง สธ.กับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มีความพร้อมอย่างไร นพ.ชลน่านกล่าวว่า ราบรื่น ไม่มีปัญหาอะไร ทาง สปสช.เป็นผู้ดูแลสิทธิของกลุ่มเป้าหมาย ค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งระบบที่ใช้เชื่อมโยงกัน ตอบโจทย์ สปสช.ได้ทุกจุด โดยมีระบบที่จะแสดงสิทธิของผู้ที่เข้ารับบริการ และระบบการจ่ายเงิน เรามีความพร้อมในตรงนี้แล้ว
เมื่อถามถึงข้อกังวลเรื่องความปลอดภัยของระบบข้อมูล เนื่องจากล่าสุดโรงพยาบาลศูนย์ (รพศ.) อุดรธานี ถูกแฮกเกอร์เจาะเข้าระบบ ทำให้เกิดปัญหาการให้บริการประชาชน นพ.ชลน่านกล่าวว่า มั่นใจว่า เรื่องนี้จะไม่มีผลกระทบกับนโยบายบัตรประชาชนใบเดียว
“เพราะยิ่งเรารู้ว่ามีการโจมตีทางไซเบอร์ เราสามารถตรวจจับได้เร็ว อย่างทาง รพศ.อุดรธานี ก็สามารถตรวจจับได้เร็ว และรีบแก้ไขเพื่อไม่ให้กระทบต่อการให้บริการของประชาชน ซึ่งทาง รพ.จัดการได้ดีมาก ส่วนในเชิงระบบนั้น สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ หรือ สกมช. ได้เข้ามาดูแลแล้ว และเราได้เตรียมพร้อมในจังหวัดที่เหลือ พร้อมให้แนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาหากเกิดกรณีดังกล่าวขึ้น โดยเฉพาะการนำเข้าข้อมูลสู่ระบบ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและเจ้าหน้าที่ทุกคนจะต้องระมัดระวังในการนำเข้าข้อมูลที่แปลกๆ มักจะนำมาสู่การแฮกข้อมูล หรือการติดตั้งระบบที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรง เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบแสงสว่างต่างๆ ที่จะต้องเชื่อมข้อมูลเข้าไป ก็จะต้องมีความระมัดระวังมากขึ้น” นพ.ชลน่านกล่าว
รัฐมนตรีว่าการ สธ.กล่าวว่า แนวทางการป้องกันที่สำคัญคือการสำรองข้อมูล และแนวทางดูแลผู้ป่วยหากเกิดปัญหาขึ้น ส่วนการแก้ปัญหาเชิงระบบในระยะกลาง คือ การใช้มาตรฐานพัฒนาคุณภาพระบบเทคโนโลยีสารสนเทศโรงพยาบาล (HAIT : Healthcare Accreditation Information Technology) ดังนั้น รพ.ที่ได้รับการรับรองระดับ 2 จาก HAIT จะเป็นหลักประกันและสร้างความมั่นใจความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้
