สพฉ. รวมข้อมูลสอบ รพ.เอกชน ปฏิเสธรักษา นทท.ไต้หวัน อ้าง ‘เตียงเต็ม’

สพฉ. รวมข้อมูลสอบ รพ.เอกชน ปฏิเสธรักษา นทท.ไต้หวัน อ้าง ‘เตียงเต็ม’ เตรียมเสนอ บอร์ด กพฉ. พิจารณาผิดหรือไม่

เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ว่าที่ร้อยตรีการันต์ ศรีวัฒนบูรพา ผู้ช่วยโฆษกสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) หรือสายด่วน 1669 ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีโรงพยาบาล (รพ.) เอกชน ปฏิเสธการรักษาผู้ป่วยชาวไต้หวัน และให้ทีมกู้ชีพนำส่ง รพ.ของรัฐ ซึ่งผู้ป่วยได้เสียชีวิตระหว่างการส่งต่อว่า เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทีมของ สพฉ.และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ได้ลงไปสอบถ้อยคำสัมภาษณ์พยาน ซึ่งหลักๆ จะพิจารณาตามข้อกฎหมาย คือ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ มาตรา 28 และ พ.ร.บ.สถานพยาบาล มาตรา 36 ซึ่งทั้ง 2 กฎหมายนี้จะพูดคล้ายกัน หลักการคือสถานพยาบาลจะต้องมีการให้การช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินอย่างเต็มความสามารถก่อน โดยไม่เอาเรื่องของสิทธิ เรื่องของเงินมาเกี่ยวข้อง นี่เป็นธงของกฎหมาย ดังนั้น ทีมจึงลงไปสอบสวนข้อมูลว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมายตรงนี้หรือไม่ เพราะเราเห็นแค่เพียงจากคลิป เราก็ต้องไปดูว่าเรื่องราวในห้องฉุกเฉินเป็นอย่างไรถึงไม่ได้รับ

“อย่างแรกคือ ผู้ป่วยฉุกเฉินที่นำไปส่งห้องฉุกเฉินในวันที่เกิดเหตุนั้น อาการเป็นอาการในเคสที่ รพ.จะต้องปฏิเสธไม่ได้หรือไม่ ต้องรับเท่านั้นหรือไม่ ข้อมูลก็จะมาจากศูนย์เอราวัณที่เป็นผู้ไปส่งเคส ต่อมาต้องไปดูว่าเวลานั้น เราทราบจากสื่อว่า รพ.ไม่ได้รับผู้ป่วย แต่ที่ไม่รับมีเหตุผลอะไร ไม่รับด้วยเงื่อนไขอะไร เช่น มีความจำเป็นอื่น เช่น รพ.เตียงเต็มจริงๆ ผู้ป่วยเกินศักยภาพในการรักษาหรือไม่ แต่หากบอกไม่รับเพราะไม่มีเงิน ก็จะเป็นเงื่อนไขในความผิด เมื่อวานทีมสืบสวนจึงลงไปดูว่ามีเหตุผลอะไรหรือไม่ ที่ รพ.ไม่รับ ก็เป็นการไปสอบถาม รพ.เอกชนที่เกี่ยวข้อง” ว่าที่ร้อยตรีการันต์กล่าว

ว่าที่ร้อยตรีการันต์กล่าวต่อว่า ข้อมูลการสอบถ้อยคำตรงนี้อาจจะยังเปิดเผยได้ยาก เพราะมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องในเชิงกฎหมาย คดี ข้อมูลผู้ป่วยด้วย จึงอาจเปิดเผยได้ไม่ครบทุกอย่าง ส่วนการพิจารณาและประกาศว่ามีความผิดหรือไม่ผิด และหากผิดโทษคืออะไร คนที่จะดำเนินการคือ สบส. ส่วน สพฉ.จะนำข้อมูลทั้งหมด ผลการสอบสวน หลักฐานทั้งหมดเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (บอร์ด กพฉ.) ในการพิจารณาว่า จากข้อมูลที่ให้มานั้นผิดหรือไม่

Advertisement

เมื่อถามว่าทาง รพ.ได้ให้เหตุผลหรือไม่ว่า ที่ไม่รับผู้ป่วยรายนี้เนื่องจากเหตุผลใด ว่าที่ร้อยตรีการันต์กล่าวว่า จริงๆ มีเหตุผลหลายอย่างที่จะไม่รับ เหตุผลของทาง รพ.อาจเป็นเรื่องข้อจำกัดการรับผู้ป่วยเพิ่ม หรือเตียงเต็มเกินศักยภาพการรักษา จริงๆ แล้วก่อนที่กู้ภัยหรือรถฉุกเฉินจะเอาผู้ป่วยไปส่งห้องฉุกเฉิน ศูนย์เอราวัณจะมีการโทรไปถามอยู่แล้วว่า รพ.รับเคสนี้ได้ไหม เกิดเหตุใกล้ๆ ซึ่งในข่าว รพ.ก็ให้ข่าวอยู่แล้วว่า ตอบศูนย์เอราวัณไปแล้วว่ารับไม่ได้ แต่สถานที่เกิดเหตุกับ รพ.ค่อนข้างใกล้ รถกู้ชีพเลยตัดสินใจเอาไปอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉินก่อน ซึ่งการอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉินแล้วกับการโทรถามว่ารับไม่รับ จริงๆ เรื่องเดียวกัน แต่บริบทต่างกัน

ถามย้ำว่าที่ รพ.ไม่รับคือให้เหตุผลว่าศักยภาพเตียงไม่สามารถรับได้ใช่หรือไม่ ว่าที่ร้อยตรีการันต์กล่าวว่า ใช่ ซึ่งเขาให้เหตุผลนี้มา แต่คณะกรรมการจะต้องไปดูองค์ประกอบอื่นอีกว่า เข้าข่ายที่จะยกเว้นความผิดนี้หรือไม่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ ต้องให้ทางคณะกรรมการเป็นผู้พิจารณาอีกครั้ง ซึ่งเราจะมีการประชุมคณะกรรมการกันทุกเดือน แต่เรื่องนี้เป็นวาระเรื่องด่วน ก็คาดว่าจะเข้าภายในเดือนนี้ ส่วนผลการพิจารณาจะเป็นอย่างไร จะมีการแจ้งข้อมูลต่อสาธารณะอีกครั้ง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image