การขับรถท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาวผ่านเส้นทางภูเขา ซึ่งริมข้างทางเป็นพื้นที่ป่าไม้มีความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุฉุกเฉินจากสัตว์เดินหรือวิ่งตัดหน้ารถในระยะกระชั้นชิด ทั้งสัตว์ขนาดเล็กที่มีพฤติกรรมตื่นตกใจง่ายและสัตว์ขนาดใหญ่ที่เคลื่อนตัวช้า อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ เพื่อความปลอดภัยกระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)
ขอแนะประชาชนเรียนรู้วิธีปฏิบัติเมื่อสัตว์เดินหรือวิ่งตัดหน้ารถ ดังนี้
สัตว์ใหญ่
• หากเห็นสัตว์ในระยะไกล ควรชะลอความเร็ว พร้อมหยุดรถ รอให้สัตว์เดินผ่านไปก่อน จึงค่อยขับรถไปต่อ
• กรณีสัตว์ตัดหน้ารถในระยะกระชั้นชิด ให้ชะลอความเร็ว พร้อมจับพวงมาลัยให้มั่น จะช่วยลดแรงปะทะที่ทำให้อุบัติเหตุรุนแรงมากขึ้น
• เปลี่ยนช่องทางโดยเบี่ยงพวงมาลัยเล็กน้อย หากไม่มีสิ่งกีดขวางช่องทาง จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุรุนแรง
• ห้ามเบรกกะทันหันจนล้อล็อก เพราะจะไม่สามารถควบคุมทิศทางรถได้ ทำให้รถเสียหลักออกนอกเส้นทาง
• ห้ามหักหลบในขณะที่รถวิ่งด้วยความเร็วสูง เพราะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ
• ห้ามใช้แตรอย่างเด็ดขาด เพราะทำให้สัตว์ตื่นตกใจมากขึ้นและวิ่งไปมาจึงยากต่อการตัดสินใจหักหลบ ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
สัตว์เล็ก
• บีบแตรเป็นจังหวะสั้น ๆ หลาย ๆ ครั้ง ห้ามบีบแตรแบบเสียงยาวต่อเนื่อง เพราะสัตว์อาจตื่นตกใจและวิ่งไปมาจนไม่รู้ทิศทาง
• กรณีสัตว์วิ่งตัดหน้ารถในระยะกระชั้นชิด ควรจับพวงมาลัยให้มั่นพร้อมชะลอความเร็ว แต่ไม่ควรหักหลบรถไปในทิศทางอื่น เพราะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุรุนแรง
กรณีพบช้างป่า
• หยุดรถให้ห่างจากช้างในระยะไม่ต่ำกว่า 30 – 50 เมตร หากช้างเดินเข้าหา ให้ขับรถถอยหลังอย่างช้า ๆ รอจนช้างเดินพ้นถนนไปสักระยะ จึงค่อยขับรถไปต่อ
• ไม่ควรดับเครื่องยนต์ เพราะหากช้างเข้ามาทำอันตรายจะขับรถหนีไม่ทัน
• ไม่บีบแตรรถหรือส่งเสียงดัง เพราะอาจทำให้ช้างโกรธและเข้ามาทำอันตรายได้
• หากพบช้างในเวลากลางคืน ควรเปิดไฟรถไว้ เพื่อสังเกตอาการของช้าง และระยะห่างระหว่างรถกับช้าง
• ห้ามเปิดไฟกะพริบ เพราะแสงไฟจะสะท้อน เข้าตาช้าง และดึงดูดความสนใจของช้างให้เข้ามาหารถ