สธ.เผยอากาศหนาวพบป่วย ‘ไข้หวัดใหญ่’ เพิ่มขึ้น ย้ำมีอาการสวมหน้ากาก เลี่ยงใกล้ชิดเด็ก-สูงวัย
วันนี้ (24 ธันวาคม) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า จากการติดตามเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่และโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ โดยกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค พบว่า ช่วงสัปดาห์ที่ 47-50 ระหว่างวันที่ 19 พฤศจิกายน-วันที่ 16 ธันวาคม 2566 ได้เก็บตัวอย่างจากระบบทางเดินหายใจของผู้ที่มาโรงพยาบาลด้วยกลุ่มอาการทางเดินหายใจ ในโรงพยาบาลเครือข่าย 14 แห่ง จำนวน 120-200 ตัวอย่างต่อสัปดาห์ ตรวจหาเชื้อด้วยวิธี PCR พบเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในสัดส่วนที่สูงถึงร้อยละ 42 รองลงมาเป็น เชื้อไรโนไวรัส/เอนเทอโรไวรัส ร้อยละ 36.9 เชื้อ hMPV ร้อยละ 9.3 เชื้ออาร์เอสวี ร้อยละ 6.4 และเชื้อโควิด-19 ร้อยละ 5.4
“โดยในผู้ป่วยพบเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่มีอาการรุนแรงจนต้องรับไว้รักษาในโรงพยาบาลนั้น มากที่สุดอยู่ในกลุ่มอายุน้อยกว่า 5 ปี รองลงมา เป็นกลุ่มอายุ 5-17 ปี และมากกว่า 65 ปีตามลำดับ” นพ.โอภาสกล่าว และว่า จากข้อมูลจะเห็นได้ว่าโรคไข้หวัดใหญ่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยกลุ่มเสี่ยงที่จะป่วยแล้วมีอาการรุนแรง คือ เด็กเล็ก เด็กวัยเรียน และผู้สูงอายุ ประกอบกับช่วงนี้ประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็นในหลายพื้นที่ ซึ่งสภาพอากาศเช่นนี้มีผลให้เชื้อไวรัสอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานขึ้น แพร่กระจายได้ง่ายและเร็วขึ้น ดังนั้น ขอให้ประชาชนระมัดระวังรักษาสุขภาพ ดูแลอนามัยส่วนบุคคล รักษาร่างกายให้อบอุ่น โดยเฉพาะเมื่อมีอาการทางเดินหายใจ เป็นไข้ เจ็บคอ ไอ จาม มีน้ำมูก ให้สวมหน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงการเข้าไปในที่มีฝูงชนจำนวนมาก รวมทั้งการใกล้ชิดเด็กและผู้สูงอายุ หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ และเฝ้าระวังอาการเจ็บป่วยรุนแรงของผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง หากรับประทานยาเบื้องต้นแล้วอาการไม่ดีขึ้น ขอให้ไปพบแพทย์โดยเร็ว