ชลน่าน อวดผลงาน 100 วัน ทำ Quick Win สำเร็จครบ 10 ข้อ ‘ฉีดวัคซีนเอชพีวีทะลุล้านโดส-บรรจุพยาบาลชำนาญการพิเศษเกือบหมื่นคน’
วันที่ 27 ธ.ค.2566 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ที่ปรึกษารมว.สาธารณสุข พญ.นวลสกุล บำรุงพงษ์ คณะที่ปรึกษารมว.สธ. น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกสธ.ฝ่ายการเมือง และผู้บริหารกระทรวง “แถลงผลสำเร็จ Quick Win 100 วัน” ตามนโยบายของรัฐบาล
นพ.ชลน่านกล่าวว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ประกาศนโยบาย “ยกระดับ 30 บาท” เมื่อวันที่ 22 กันยายน ที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบบริการและคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยมีทั้งหมด 13 ประเด็น ในจำนวนนี้เราได้กำหนดแผนปฏิบัติการเร่งรัดให้สำเร็จภายใน 100 วัน หรือ Quick Win จำนวน 10 ประเด็น ซึ่งกรอบเวลาในการดำเนินการได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ที่ผ่านมา วันนี้ตนจึงขอสรุปผลการดำเนินงาน ว่า บุคลากรสาธารณสุขทุกภาคส่วนร่วมมือกันขับเคลื่อนงานที่ได้รับมอบหมายตามนโยบายได้สำเร็จตามเป้าหมายครบทั้ง 10 ประเด็น โดยบางเรื่องสำเร็จก่อนถึงเวลาที่กำหนดในประเด็นที่ 1 นโยบายมะเร็งครบวงจร ที่มีการตั้งเป้าหมายในการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก หรือวัคซีนเอชพีวี (HPV) ให้หญิงไทยอายุระหว่าง 11 – 20 ปี จำนวน 1 ล้านโดส ซึ่งสามารถทำได้สำเร็จภายใน 1 เดือน โดยล่าสุดมีการฉีดไปแล้ว 1,391,825 โดส
นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่า ประเด็นที่ 2 การสร้างขวัญกำลังใจให้แก่บุคลากร โดยมีการอบรมพัฒนาทีม CareD+ ในหน่วยบริการทุกระดับ ที่เสมือนเป็นญาติเฉพาะกิจช่วยประสานใจระหว่างผู้ป่วย ญาติกับบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งที่ผ่านมาเรื่องนี้เป็นจุดอ่อนของระบบบริการสาธารณสุข เป้าหมายที่ตั้งไว้ 10,000 คน แต่มีผู้มาสมัครเข้าอบรมถึง 16,500 คน ซึ่งขณะนี้ผ่านการอบรมไปแล้ว 10,127 คน และจะมีการส่งมอบรุ่นแรก 1,000 คน ส่วนเรื่องขวัญกำลังใจให้กับบุคลากรในเรื่องของการบรรจุพยาบาลเข้าสู่ตำแหน่ง โดยตั้งเป้าหมายไว้ให้ได้ร้อยละ 50 จากจำนวน 3,318 อัตรา ขณะนี้บรรจุไปแล้ว 2,433 อัตรา และมีการกำหนดตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพระดับชำนาญการพิเศษ 10,120 ตำแหน่ง ดำเนินการแล้วถึง 9,489 ตำแหน่ง และที่สำคัญทางคณะอนุกรรมการสามัญประจำสำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข (อ.ก.พ.สป.สธ.) มีมติเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม เห็นชอบการขึ้นเงินเดือนสำหรับแพทย์ที่ลาราชการไปเรียนต่อเฉพาะทาง 13 สาขา ซึ่งจะได้เหมือนกับการอยู่ทำงานปกติ เพื่อจูงใจให้แพทย์เข้ามาเรียนสาขาเหล่านี้
นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่า ประเด็น Quick Win อื่นๆ ดำเนินการตามเป้าหมายเช่นกันในประเด็นที่ 3 โครงการพระราชดำริ/เฉลิมพระเกียรติ และที่เกี่ยวเนื่องกับพระบรมวงศานุวงศ์ มีการจัดตั้งเครือข่ายราชทัณฑ์ปันสุขต้นแบบครบทั้ง 12 เขตสุขภาพ โรงพยาบาล(รพ.) เฉลิมพระเกียรติและ รพ.สมเด็จพระยุพราช ทั้ง 32 แห่ง ผ่านเกณฑ์ประเมิน รพ.อัจฉริยะต้นแบบ (Smart Hospital) ระดับเงิน ประเด็นที่ 4 รพ.กทม. 50 เขต 50 รพ.และปริมณฑล จัดตั้ง รพ.ขนาด 120 เตียง 2 แห่ง คือ รพ.ประจำเขตดอนเมือง เป็นบริการร่วมระหว่าง รพ.ราชวิถี 2 และ รพ.ทหารอากาศ (สีกัน) และ รพ.ราชวิถีนครพิงค์ จ.เชียงใหม่ ช่วยเพิ่มการเข้าถึงการรักษาของประชาชนในเขตเมือง ประเด็นที่ 5 “สุขภาพจิต/ยาเสพติด” จัดตั้งมินิธัญญารักษ์ดูแลผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติดครบ 76 จังหวัด จำนวน 92 รพ. รวม 1,458 เตียง
ประเด็นที่ 6 “สถานชีวาภิบาล” เป้าหมายอย่างน้อยเขตสุขภาพละ 1 แห่ง จัดตั้งได้ 137 แห่ง ใน 44 จังหวัด ครบ 13 เขตสุขภาพ ประเด็นที่ 7 “บัตรประชาชนใบเดียว รักษาทุกที่” นำร่องครบ 4 จังหวัดจาก 4 เขตสุขภาพ ได้แก่ แพร่ ร้อยเอ็ด เพชรบุรี และนราธิวาส มีการเชื่อมข้อมูลครบทั้ง 100% พร้อมเปิดอย่างเป็นทางการวันที่ 10 ม.ค. 2567 ส่วน รพ.อัจฉริยะ มี รพ.ผ่านเกณฑ์ประเมินระดับเงิน 799 แห่ง จาก 901 แห่ง คิดเป็น 88.68% ประเด็นที่ 8 “ส่งเสริมการมีบุตร” จัดทำร่างวาระแห่งชาติแล้ว เตรียมเสนอเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ต่อไป ประเด็นที่ 9 “เศรษฐกิจสุขภาพ” จัดตั้ง Blue Zone เมืองสุขภาพดี วิถีชุมชน คนอายุยืน ครบ 12 เขตสุขภาพ 20 แห่ง แบ่งเป็น เขตสุขภาพที่ 1 จำนวน 88 แห่ง และเขตสุขภาพที่ 2-12 อีกเขตละ 1 แห่ง และประเด็นที่ 10 “นักท่องเที่ยวปลอดภัย” จัดตั้งทีม Sky Doctor ครบทั้ง 13 เขตสุขภาพตามเป้าหมาย
