อภ.จับมือ ไจก้า ผลักดันการผลิตวัคซีนด้วยเทคโนโลยีเซลล์เพาะเลี้ยงของไทย

อภ.จับมือ ไจก้า ผลักดันการผลิตวัคซีนด้วยเทคโนโลยีเซลล์เพาะเลี้ยงของไทย

​เมื่อวันที่ 15 มกราคม ที่องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ภญ.นันทกาญจน์ สุวรรณปิฏกกุล รองผู้อำนวยการ อภ. และ Mr.Kazuya Suzuki หัวหน้าผู้แทนสำนักงานองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) ในประเทศไทย ร่วมแถลงความร่วมมือโครงการ “Development of Domestic Cell-based Vaccine/Biologics Production Capacity in Thailand” ผลิตวัคซีนจากเซลล์เพาะเลี้ยงในประเทศไทย ระหว่าง อภ. กับ องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) โดยมีผู้แทนจากกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ (TICA) และผู้แทนจากสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (NVI) เข้าร่วม ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตวัคซีนของประเทศไทย

ภญ.นันทกาญจน์ กล่าวว่า ความร่วมมือกับไจก้าครั้งนี้ มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาความมั่นคงด้านวัคซีนของประเทศไทย และเตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุข โดยการพัฒนาแพลตฟอร์มเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนจากเซลล์เพาะเลี้ยงนี้ จะทำให้พัฒนากระบวนการผลิตวัคซีนต่อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้อย่างรวดเร็ว และสามารถขยายขนาดการผลิตเพื่อให้รองรับสถานการณ์โรคระบาดฉุกเฉิน เช่น โรคไข้หวัดใหญ่/ไข้หวัดนก โรคโควิด-19 และโรคอุบัติใหม่อื่นๆ ในอนาคต เป็นต้น

Advertisement

“โดยเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 พญ.มิ่งขวัญ สุพรรณพงศ์ ผู้อำนวยการ อภ. และ Ms.Kitagawa Yuki, Senior Representative of JICA Thailand Office ได้มีการลงนามในเอกสารแสดงกรอบความร่วมมือ (Minutes of Meetings) และบัดนี้เอกสารแสดงรายละเอียดการดำเนินงานตามโครงการ (Record of Discussions) ได้รับการอนุมัติจากไจก้า และ อภ.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะดำเนินการในช่วงปี 2567-2568 เป็นระยะเวลา 2 ปี เพื่อเร่งพัฒนาทักษะ สร้างความเชี่ยวชาญของบุคลากร อภ. และสนับสนุนการพัฒนาโครงการพัฒนาวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H7N9 ด้วยเทคโนโลยีเซลล์เพาะเลี้ยงซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนใหม่ของประเทศ” ภญ.นันทกาญจน์ กล่าว

​รองผู้อำนวยการ อภ. กล่าวต่อไปว่า ข้อตกลงความร่วมมือนี้มีเป้าหมายหลัก คือการสร้างศักยภาพและทักษะความเชี่ยวชาญของนักวิจัยในโครงการพัฒนาการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H7N9 ด้วยเทคโนโลยีเซลล์เพาะเลี้ยง ของอภ.ที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน โดยไจก้าจะจัดหาและส่งผู้เชี่ยวชาญจากประเทศญี่ปุ่นมายัง อภ. เพื่อให้การสนับสนุนและให้คำปรึกษาแนะนำเชิงเทคนิคของการพัฒนากระบวนการผลิตวัคซีนจากเทคโนโลยีเซลล์เพาะเลี้ยงแก่ผู้ปฏิบัติงาน อภ. วางเป้าหมายการดำเนินโครงการเพื่อสร้างทักษะสำหรับการขยายขนาดการผลิตวัคซีนสู่ระดับกึ่งอุตสาหกรรม เพื่อต่อยอดไปสู่การผลิตในระดับอุตสาหกรรมเตรียมความพร้อมในการป้องกันการระบาดของโรคอุบัติใหม่ในอนาคต

Advertisement

​Mr. Kazuya Suzuki กล่าวว่า ไจก้ามุ่งมั่นสนับสนุนความร่วมมือกับประเทศไทยในการสร้างความมั่นคงของระบบสาธารณสุข และการดูแลสุขภาพ ซึ่งโครงการนี้สอดรับกับจุดประสงค์ในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการถ่ายทอดเทคโนโลยี โดยไจก้าเชื่อว่าโครงการนี้จะส่งเสริมการผลิตวัคซีนของประเทศไทยในอีกหลายปีข้างหน้าได้อย่างมั่นคง จะมีการพัฒนาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตวัคซีนจากเซลล์เพาะเลี้ยงให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ด้านสาธารณสุขของประเทศไทย ที่เน้นการพึ่งพาตนเองและการเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์การระบาดในอนาคต

“ความร่วมมือในครั้งนี้จะสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทย และประเทศญี่ปุ่นในการเสริมสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพในภูมิภาคอย่างยั่งยืน ผ่านการแบ่งปันความรู้และความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี” Mr. Kazuya กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image