ปลัดแรงงาน ห่วงเหตุพลุระเบิดที่สุพรรณบุรี ย้ำ กสร.-สปส.สอบข้อเท็จจริง เร่งช่วยทายาทผู้เสียชีวิตตามกฎหมาย
วันที่ 18 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งติดตามและช่วยเหลือกรณีที่ได้เกิดเหตุพลุระเบิดที่ จ.สุพรรณบุรี
นายไพโรจน์กล่าวว่า กรณีเกิดเหตุพลุระเบิดที่ จ.สุพรรณบุรี จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายรายนั้น ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและห่วงใยผู้บาดเจ็บทุกรายจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ซึ่งทันทีที่ทราบข่าวได้กำชับให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ร่วมกับสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามภารกิจ พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือแก่ทายาทครอบครัวผู้เสียชีวิตด้านสิทธิประโยชน์ที่พึงได้รับตามกฎหมายแรงงานในทุกมิติ พร้อมเน้นย้ำให้นายจ้างปฏิบัติตามกฎหมายความปลอดภัยในการทำงานอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย
นายไพโรจน์กล่าวว่า จากรายงานของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองจังหวัดสุพรรณบุรี พบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ 17 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 15.15 น. ได้เกิดเหตุพลุระเบิด สถานที่เกิดอุบัติเหตุตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 2 ต.ศาลาขาว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี จากการสอบถามข้อมูลเบื้องต้นขณะเกิดเหตุมีลูกจ้างมาทำงานอยู่ประมาณ 30 คน และจากข้อมูลเบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต จำนวน 23 ราย บาดเจ็บ 6 ราย จากรายงานของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสุพรรณบุรี ยังพบว่า ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงแรงงาน ได้แก่ พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ.2554 กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับสารเคมีอันตราย พ.ศ.2556
“ทั้งนี้ จากรายงานของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เบื้องต้นนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการ สปส.ได้มอบหมายให้ เรืออากาศเอกหญิง ศุภพร อยู่วัฒนา ผู้ตรวจราชการกรม สปส. พร้อมด้วย นางนารี โกเจริญ ประกันสังคมจังหวัดสุพรรณบุรี ลงพื้นที่เร่งตรวจสอบหาข้อเท็จจริง พบว่า สถานที่เกิดเหตุพลุระเบิดเป็นบ้านที่ใช้เป็นที่เก็บและผลิตพลุดอกไม้ไฟ ขณะเกิดเหตุคนงานช่วยกันบรรจุดอกไม้ไฟได้เกิดประกายไฟขึ้นทำให้เกิดเพลิงไหม้และพลุที่เก็บไว้ระเบิด ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวจสอบข้อมูลและสถานะความเป็นผู้ประกันตนของผู้เสียชีวิตเพื่อดำเนินการดูแลให้ทายาทได้รับสิทธิประโยชน์ต่อไป
