‘ประสิทธิ์ชัย-หมอเดชา’ รุมค้าน ‘ชลน่าน’ ออก กม.สูบกัญชาต้องให้แพทย์สั่ง
วันนี้ (19 มกราคม 2567) นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย กล่าวถึงกรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ระบุถึงการจัดทำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชง กัญชา พ.ศ. … ว่า การใช้กัญชาเพื่อสุขภาพจะต้องมีหลักฐานทางการแพทย์มายืนยัน ว่า ปัญหาเรื่องการสูบมีอยู่อย่างเดียว คือ การสูบนั้นเกิดควันอันเป็นสิ่งก่อความรำคาญแก่ผู้อื่น ฉะนั้น การใช้กัญชาโดยวิธีการสูบ ต้องไม่กระทำในสถานที่สาธารณะ
“หลักการมีเท่านี้ เหมือนบุหรี่ที่ต้องจัดให้มีพื้นที่สูบเป็นการเฉพาะ เพราะควันรบกวนผู้อื่น กัญชาคือ ยารักษามาตั้งแต่ครั้งโบราณ มีวิธีการนำเข้าสู่ร่างการด้วยการกิน หยอดใต้ลิ้น สูบ ไม่ว่านำเข้าร่างกายด้วยวิธีไหน ก็คือยา อยากทราบว่า หมอชลน่านจะแยกอย่างไรว่า ในกัญชามวนเดียว อันไหนคือยา อันไหนคือสันทนาการ” นายประสิทธิ์ชัย กล่าว
นายประสิทธิ์ชัย กล่าวว่า ความบิดเบี้ยวในหลายเรื่องในร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ของ นพ.ชลน่าน คือ ใช้ความกลัวกำหนดกติกา แต่ไม่ยอมใช้ข้อเท็จจริงกำหนด ยกตัวอย่างอีกเรื่องคือ กฎหมายฉบับนี้บอกว่าห้ามใช้เพื่อสันทนาการ หลักการนั้นดูดีมาก เพื่อทำให้สังคมเชื่อว่า พ.ร.บ.กัญชา เป็นไปเพื่อการแพทย์และสุขภาพ แต่กลับไม่พบมาตรการที่ชัดเจนในการคุ้มครองผู้บริโภคจากการสูบที่ก่อควัน
ด้าน นายเดชา ศิริภัทร หรือ หมอเดชา เจ้าของสูตรน้ำมันกัญชา กล่าวว่า อยากถาม นพ.ชลน่าน ว่า ถ้าสูบกัญชาเพื่อสุขภาพต้องมีหลักฐานทางการแพทย์ แล้วการสูบบุหรี่เพื่อทำลายสุขภาพ ต้องมีหลักฐานจากแพทย์หรือไม่
“รัฐบาลอยากควบคุมกัญชาให้เหมือนยาเสพติด จึงร่างกฎหมายเอง แบบเข้มงวดกว่าคุมยาบ้า เหล้า และบุหรี่ที่เป็นยาเสพติดร้ายแรงที่สุด อันดับ 5 และ 9 อนุญาตให้ใช้สันทนาการได้ แต่กัญชาที่ไม่ติดอันดับยาเสพติดร้ายแรง กลับจะควบคุมไม่ให้ใช้สันทนาการเด็ดขาด เหล้าและบุหรี่ ทำให้คนไทยตายปีละกว่าแสนคน แต่กัญชาไม่ทำให้ตายสักคน และกัญชารักษาโรคได้จริง เฉพาะที่วิจัยในประเทศไทยแล้วอย่างน้อย 8 โรค แต่เหล้า เบียร์ และบุหรี่ รักษาโรคไม่ได้เลย สร้างโรคได้มากมาย แต่กลับผ่อนผัน อ้างว่ากัญชาจะทำให้เยาวชนมีโอกาสติดยาเสพติดในอนาคตเพิ่มขึ้น ไม่ทราบว่าไปเอาข้อมูลนี้มาจากที่ไหน” นายเดชา กล่าว
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
