‘เชียงใหม่’ สุดไฮเทคใช้ AI จับปรับขับขี่ไม่สวมหมวกกันน็อก ลดตายถึง 50%

‘เชียงใหม่’ สุดไฮเทคใช้ AI จับปรับขับขี่ไม่สวมหมวกกันน็อก ลดตายถึง 50%

เมื่อวันที่ 22 มกราคม นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รองประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ คนที่  2  สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และประธานคณะกรรมการบริหารแผนคณะที่  1 สสส.  พร้อมด้วยผู้บริหารแผนคณะที่ 1 เข้าร่วมในงานบูรณาการความปลอดภัยทางถนน โดยความร่วมมือกับท้องถิ่นตำบลสุเทพ และ ศูนย์ปฏิบัติการจราจรตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลสุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

นพ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สถิติความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตในประเทศไทย พบว่าความเสี่ยงของผู้ที่เกิดอุบัติเหตุทางถนน เฉลี่ยปีละ 17,000 ราย ซึ่งเทียบเป็นอัตรา 25 ต่อแสนประชากร ถือว่าเป็นยังเป็นตัวเลขที่สูงอยู่ เนื่องจากหลายประเทศได้ดำเนินการอย่างเคร่งครัดทำให้ตัวเลขลดเหลือเพียง 5-6 ต่อแสนประชากร รวมถึงตั้งเป้าหมายให้ใกล้เคียงศูนย์มากที่สุด ดังนั้น ประเทศไทยจำเป็นต้องขับเคลื่อนเรื่องนี้ให้มากขึ้น จึงมุ่งเน้นไปยังความร่วมมือของชุมชน โดยเฉพาะศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ผ่านการสร้างจิตสำนึกให้แก่เด็กและครอบครัว สสส. จึงสนับสนุนภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ในการสร้างวัฒนธรรมการขับขี่ที่ปลอดภัยในระดับพื้นที่ สนับสนุนแผนงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัด (สอจร.) บูรณาการป้องกันแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนในระดับจังหวัดและพื้นที่ขับเคลื่อนผลักดันเชิงนโยบาย สร้างมาตรการต่างๆ เช่น มาตรการการบังคับใช้กฎหมายด้วยการใช้กล้องวงจรปิด (CCTV) ร่วมกับเอไอ (AI) ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการสวมหมวกนิรภัย ลดอัตราเสียชีวิตในกลุ่มผู้ขับขี่จักรยานยนต์ขับเคลื่อนกลไกการจัดการความปลอดภัยทางถนนในระดับอำเภอ รวมถึงการขยายผลต้นแบบกลไกการทำงานของจังหวัดที่บูรณาการลงถึงระดับอำเภอผ่านกลไกศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) พัฒนาและขยายผลศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต้นแบบปลูกฝังความปลอดภัยทางถนนตั้งแต่วัยเยาว์

Advertisement

“สสส. สนับสนุนภาคีเครือข่ายนักวิชาการและองค์ความรู้ทางด้านวิชาการจนทำให้เกิดการขยายผล ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต้นแบบด้านความปลอดภัยทางถนนอย่างต่อเนื่องใน 4 ภูมิภาค 13 จังหวัดทั่วประเทศ เกิดตำบลขับขี่ปลอดภัย 21 ตำบล สถานศึกษาและศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ศูนย์เรียนรู้ โรงเรียนครอบครัว รวมทั้งหมด 105 แห่งซึ่งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลสุเทพ สามารถขับเคลื่อนสร้างวินัย และปลูกจิตสำนึกด้านความปลอดภัยให้แก่เด็กเล็ก และสร้างการมีส่วนร่วมของท้องถิ่นและชุมชนอย่างยั่งยืน” นพ.สุรเชษฐ์กล่าว

Advertisement

ขณะที่ นายพศิน อัคเดชธนโชติ นายกเทศมนตรีตำบลสุเทพ จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลสุเทพ มีถนนตัดนชุมชนแบ่งถนระหว่างตำบลออกเป็นสองฝั่ง รวมถึงการขยายเมืองและสถานที่ท่องเที่ยว พบปัจจัยที่เกิดจุดเสี่ยง เช่น ทางร่วมทางแยก จุดอับสายตา ขับรถเร็ว ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร ซ้อนท้าย 3-4 คน รวมถึงความหลากหลายของชาติพันธุ์ในพื้นที่ที่ทำให้ไม่ชินทาง ไม่เข้าใจภาษาหรือป้ายจราจร ในปี 2562 สสส. เข้ามาสนับสนุนการดำเนินงานของเทศบาลเกิดเป็นแนวทางการดำเนินงาน ได้แก่ 1.ทำข้อตกลงร่วมกับผู้ปกครองให้สวมหมวก/คาดเข็มขัดนิรภัย 100% หากไม่ปฏิบัติตามต้องเสียคำปรับครั้งละ 20 บาทต่อคนครั้ง 2.ชุมชนสร้างแกนนำอาสาสมัครเฝ้าระวัง ร่วมกันจัดทำป้ายกำจัดจุดเสี่ยงเอาวัสดุเหลือใช้มารีไซเคิลทำเป็นป้ายบอกจุดเสี่ยงในชุมชน 3.เทศบาลจัดทำเนินชะลอความเร็ว ติดตั้งป้ายจราจร สัญญาณไฟกระพริบ ปิดจุดเสี่ยงอันตรายในชุมชน และ 4.จัดการเรียนการ สอน มุ่งเน้นสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน เรียนรู้ภายในห้องเรียนและสถานการณ์จริง ให้เด็กสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน

ทั้งนี้ นพ.ธีรวุฒิ โกมุทบุตร ที่ปรึกษา สอจร.ภาคเหนือตอนบน จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ข้อมูลสถิติปี 2562 อัตราการบาดเจ็บและเสียชีวิตกว่าครึ่งหนึ่งของกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ใน จ.เชียงใหม่ พบว่าเกิดจากสภาพแวดล้อม ความมืดทำให้เห็นเส้นทางไม่ชัดเจนในเวลากลางคืน ขับเร็วเกินกว่าหมายกำหนด ดื่มแล้วขับ ขณะที่ อัตราการสวมหมวกนิรภัยมีเพียงร้อยละ 10-30 ดังนั้น จึงมีแนวคิดในการใช้กล้องซีซีทีวีอัจฉริยะ ตรวจจับผู้ขับขี่ที่ไม่สวมหมวกนิรภัยผ่านการใช้โปรแกรม AI Safer Road Foundation หากไม่สวมหมวกนิรภัยจะมีใบสั่งปรับถึงบ้าน ผลการดำเนินการภายใน 1 เดือน พบว่า ประชาชนในพื้นที่ใส่หมวกนิรภัยเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 20 และใน 5 อำเภอเสี่ยง ได้แก่ อ.เมือง อ.สันทราย อ.สาร อ.หางดง อ.ริม มีผู้สวมหมวกนิรภัยมากถึงร้อยละ 80 และลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ในจุดเสี่ยงได้มากขึ้นกว่าร้อยละ 50

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image