สธ.รับลูกนายกฯ ใช้ ฮ.ลำเลียงผู้ป่วยฉุกเฉิน ‘ชลน่าน’ หนุนตั้งหน่วยปฏิบัติการทางอากาศ
เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2567 น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า สธ.พร้อมขานรับนโยบายของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ประกาศผ่านการแถลงของ นายชัย วัชรงค์ โฆษกรัฐบาล หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ จ.พังงา เมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา ที่แจ้งว่า รัฐบาลมอบหมายให้ สธ.พัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉิน พร้อมระบบรับแจ้งเหตุและสั่งการที่มีมาตรฐานในระดับสากล เพื่อเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตของผู้ป่วย สร้างความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวและผู้ป่วย โดยผลักดันการจัดตั้งแพทย์ฉุกเฉิน เพิ่มความรวดเร็วในการขนส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน
น.ส.ตรีชฎากล่าวว่า หลัง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ สธ.ได้เร่งรัดพร้อมสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง กองสาธารณสุขฉุกเฉิน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ทั่วประเทศ และสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) จัดตั้งหน่วยปฏิบัติการแพทย์ระดับเฉพาะทาง สาขาการแพทย์ฉุกเฉินทางอากาศ หรือที่เรียกว่า สกาย ด็อกเตอร์ (Sky Doctor) ให้ครบทุกเขตสุขภาพทั่วประเทศ โดยกำหนดให้เป็น 1 ใน 13 ควิกวิน 13 ประเด็นใน 100 วัน
โฆษก สธ.ฝ่ายการเมืองกล่าวว่า เพื่อเร่งรัดให้นโยบายดังกล่าวเดินหน้าตอบสนองนโยบายของนายกฯ ได้ให้ สพฉ.เปิดรับสมัครผู้เข้าอบรมหลักสูตร Basic HEMS ให้กับผู้ให้บริการการแพทย์ฉุกเฉินของหน่วยปฏิบัติการแพทย์ระดับเฉพาะทางสาขาฉุกเฉินการแพทย์ทางอากาศ เพื่อเตรียมพร้อมด้านบุคลากรที่จะเข้ามาช่วยให้บริการผู้ป่วยฉุกเฉินในหน่วยดังกล่าว เพราะหัวใจของการช่วยชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉิน คือ การเข้าถึงการรักษาเฉพาะทางได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเฮลิคอปเตอร์จะเป็นยานพาหนะที่สามารถช่วยนำผู้ป่วยฉุกเฉินมาถึงโรงพยาบาลได้
น.ส.ตรีชฎากล่าวว่า ทีมการแพทย์ฉุกเฉินทางอากาศ หรือ สกาย ด็อกเตอร์ดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2552 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลานาน 15 ปี จึงจำเป็นต้องมีการยกระดับ ปรับระบบ ให้สอดคล้องกับปัจจุบัน ทั้งด้านความรู้ ทักษะ และการใช้เครื่องมือใหม่ๆ ที่ทันสมัยมากขึ้น โดยตั้งเป้าจัดทีมแพทย์ฉุกเฉินในระดับสากล ในเขตสุขภาพทั้งหมด 13 เขต 20 หน่วยทั่วประเทศ
“ในการดำเนินการ เราได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งทหาร ตำรวจ และภาคีเครือข่ายให้บริการอากาศยาน จัดระบบรับแจ้งเหตุ และระบบปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนมีประสิทธิภาพมากที่สุด” น.ส.ตรีชฎากล่าวและว่า นพ.ชลน่านได้มอบนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ดำเนินงานเกี่ยวกับการแพทย์ฉุกเฉิน ให้บริการผู้ป่วยฉุกเฉินอย่างมีคุณภาพทั่วถึง และเท่าเทียม มีเครือข่าย เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยซึ่งได้รับบาดเจ็บหรือมีอาการป่วยกะทันหัน อยู่ในภาวะอันตรายให้ได้รับการบำบัดรักษาอย่างทันท่วงที ป้องกันการเสียชีวิต หรือรุนแรงขึ้นจากการบาดเจ็บหรือการป่วยนั้น ซึ่ง สธ.มีความพร้อมในทุกด้านที่จะการทำงานเพื่อประชาชน