ส.ก.ขำ หลังเฮียล้านถาม เชื่อไหม? ‘คลองเตยไม่มีผู้บุกรุก’ – ห่วงรุกล้ำ ขวางทางน้ำหน้าฝน ชงตั้งคกก.ลงไปดูสภาพ ทวงคืนที่สาธารณะ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยผู้บริหาร กทม. และ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ทั้ง 50 เขต เข้าร่วมการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 6) ประจำปีพุทธศักราช 2567
สำหรับการประชุมครั้งนี้มีระเบียบวาระที่สำคัญ โดย นายชัชชาติ ผู้ว่าฯ กทม. รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 นอกจากนี้ นายชัชชาติ ยังยื่นญัตติ เสนอขอความเห็นชอบเพิ่มวงเงินผูกพันงบประมาณกรุงเทพมหานครโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณแยกเกียกกาย ช่วงที่ 3 ก่อสร้างทางยกระดับและถนนฝั่งพระนคร จากแม่น้ำเจ้าพระยาถึงแยกสะพานแดง อีกด้วย
ในตอนหนึ่ง นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร หรือ เฮียล้าน ส.ก.เขตจอมทอง พรรคเพื่อไทย ยื่นญัตติ เรื่อง ขอให้สภากรุงเทพมหานครตั้งคณะกรรมการวิสามัญศึกษา เพื่อสำรวจและติดตามพื้นที่สาธารณะของกรุงเทพมหานคร โดยให้เหตุผลว่า เนื่องจากที่สาธารณะของ กทม.มีจำนวนมาก มีการบุกรุกนำไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว บ้างก็ถูกทิ้งให้รกร้างว่างเปล่า บางที่ไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์อะไรในทางส่วนร่วม ส่วนหนึ่งเกิดจากหน่วยงานของ กทม.ที่ได้ไม่สำรวจและจัดเก็บขอมูลให้เป็นปัจจุบัน ดังนั้น เพื่อให้พื้นที่สาธารณะของ กทม.ได้ใช้ประโยชน์ มีการจัดเก็บข้อมูลให้ครบถ้วน และดูแลรักษาได้ทั่วถึง จึงขอให้ สภากทม.ตั้งคณะกรรมการชุดนี้
นายสุทธิชัยกล่าวถึงเหตุผลว่า หลายโครงการของ กทม.ดำเนินการไม่ได้เนื่องจากติดผู้บุกรุก ไล่รื้อไม่ได้ หรือบางที่ก็ยังไม่ไล่รื้อ ก็จะเป็นปัญหาการผลักดันงบฯ ไม่เป็นไปตามประสิทธิภาพ
“ทำไม่ได้ เพราะติดปัญหารุกล้ำ ถามหลายเขตก็บอกมี มีมาก-น้อยสุดแล้วแต่ ผมถามว่าทำไมไม่ไล้รื้อ ก็เงียบๆ กัน นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ผมจำเป็นต้องยื่นญัตติในเรื่องนี้ และมาดูว่า เอ๊ะ! ผู้ที่บุกรุกที่สาธารณะ โดนดำเนินคดีมีมากน้อยเพียงใด ข้อมูลจากสำนักเทศกิจ เมื่อ 13 ม.ค.2566 จะเห็นได้เลยว่า จากรายงานผลดำเนินคดีผู้บุกรุกที่ของรัฐใน กทม. เหลือเชี่อมีไม่น้อย ช่วงเดือน ก.ค.-ธ.ค.2565 มีจำนวน 3,629 ราย 41 เขต”
นายสุทธิชัยกล่าวต่อว่า แปลกใจที่สุด ไม่พบบุกรุกใน 9 เขตคือ ราชเทวี คลองเตย คลองสามวา จตุจักร คลองสาน ป้อมปราบศัตรูพ่าย บางกอกใหญ่ ทุ่งครุ ราชบูรณะ ไม่มีการบุกรุกเลย
“เขตคลองเตยไม่มีผู้บุกรุกเลย เขาบอกว่าอย่างนั้นนะ น่าเชื่อไหม นั่น ส.ก.หัวเราะเลย แต่ละเขตมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะมาก อย่างเขตพระนคร มีผู้บุกรุก 7 ราย กำลังดำเนินคดีทางปกครอง เขตปทุมวันก็เช่นเดียวกัน ขนาดเขตชั้นใน เขตห้วยขวางเยอะที่สุด 3,000 กว่าราย เขตวัฒนา 355 ราย และยังมีอีกหลายเขต 600-700 ราย เขตหลักสี่ 208 ราย มีขั้นตอนการแจ้งความร้องทุกข์แล้วดำเนินคดี ขั้นตอนยังไม่ถึงไหน มีหลายเขตทั้งสัมพันธวงศ์ เขาบอกหนองจอกมี 3 ราย แทบไม่น่าเชื่อ
เขตลาดกระบังมันต้องเยอะกว่านี้ 68 รายน้อยมาก จากข้อมูลที่สำนักเทศกิจส่งมามันน้อยจริงๆ เขตจอมทองยัง 11 รายเลย ผมถึงได้หาข้อมูลมา ด้วยเหตุนี้จึงขอให้ตั้งคณะกรรมการชุดนี้” นายสุทธิชัยชี้
นายสุทธิชัยกล่าวต่อว่า ถ้าเปรียบเทียบว่า เรามีคลอง 1 เส้น มีคนบุกรุกลำคลองไปสร้างบ้าน ถมดินขวางทางน้ำ โดยเฉพาะผู้ว่าฯ กทม. มีนโยบายเส้นเลือดฝอย ต้องระบายน้ำได้สะดวก แต่เรื่องนี้เกิดก่อนยุคผู้ว่าฯ ชัชชาติ
“ถ้าเห็นสภาพอย่างนี้ น้ำจะไหลไปทางไหน ไม่อย่างนั้นเวลาเราจะแก้ไขน้ำท่วม ช่วงปลายก็แก้ไม่ได้ เพราะมีการบุกรุก น้ำไหลไม่ได้ ตอนนี้ที่ไหลไม่ทัน เพราะส่วนหนึ่ง 30% ริมคลองมีการบุกรุกที่สาธารณะ สภาพจริงเป็นอย่างนี้ อยากให้ผู้บริหารได้เห็น
สมมติคลองกว้าง 6 เมตร ก็มีการปลูกนอกชาน ถมดินออกมา แบบนี้มันต้องดำเนินคดีไหม คลองเป็นคลองสาธารณะ ไปกั้นอย่างนี้จะระบายน้ำอย่างไร น้ำมันจะท่วม อีก 2-3 เดือนก็หน้าฝนแล้ว เขตต้องดำเนินคดีกับบุคคลที่รุกล้ำที่สาธารณะ”
ถึงเวลาหรือยัง ต้องมีการสำรวจ ตั้งคณะกรรมการเพื่อดูข้อเท็จจริง และรายงานผู้ว่าฯ ผู้บริหารและข้าราชการกทม.ให้รับทราบ เพื่อที่จะได้ขับเคลื่อน เอาที่สาธารณะของ กทม.มาทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม” นายสุทธิชัยกล่าว
อ่านข่าว : ชัชชาติ ลั่น ‘ตกลงคนละครึ่ง’ ปรากฏรบ.ไม่จ่าย ขอ ส.ก.เพิ่มงบ ‘สะพานเกียกกาย ช่วง 3’
