‘ปลัดฯวันทนีย์-แอนโทเนีย-ไบร์ท’ รับรางวัลสตรีดีเด่น ‘พิพัฒน์’ ดันเพิ่มวันลาคลอดได้เงินเดือน

 ‘ปลัดฯวันทนีย์-แอนโทเนีย-ไบร์ท’ รับรางวัลสตรีดีเด่น ‘พิพัฒน์’ ดันเพิ่มวันลาคลอดได้เงินเดือน

วันนี้ (23 กุมภาพันธ์ 2567) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน  เปิดเผยว่า ปัจจุบันสตรีไทยมีบทบาทในสังคมมากขึ้น และอยู่ในภาคแรงงานทั้งในระบบและนอกระบบร่วม 30 ล้านคน ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานให้ความสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานสตรี และคุ้มครองให้ได้รับสิทธิประโยชน์การจ้างงานอย่างเท่าเทียมและไม่เลือกปฏิบัติ

“ขณะนี้ ผมได้ดำเนินการเสนอเรื่องต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อกำหนดเพิ่มสิทธิการลาคลอดบุตร 98 วัน
ได้เงินเดือนเต็ม พร้อมให้วันลาสามีเพื่อดูแลภรรยาและลูกได้ตามเงื่อนไขของผู้ประกอบการ และดูเเลสิทธิประโยชน์ประกันสังคมตรวจสุขภาพเชิงรุกเพื่อแรงงานสตรี ตรวจหามะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก รวมถึง
เพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงการรักษาด้วยการผ่าตัดหรือทำหัตถการในกลุ่มโรคสตรี เช่น ผ่าตัดมะเร็งเต้านม และผ่าตัดก้อนเนื้อที่มดลูกและหรือรังไข่ พร้อมทั้งส่งเสริมการประกอบอาชีพแก่สตรีให้มีทักษะฝีมือและสร้างโอกาสให้สตรีเข้ามามีบทบาทในการเป็นผู้แทนในกลไกทวิภาคีในสถานประกอบกิจการเพื่อให้มีส่วนร่วม
ในการพิจารณาการดำเนินงานด้านแรงงานอันเป็นประโยชน์โดยรวมต่อสังคมด้านแรงงาน” นายพิพัฒน์ กล่าว

ด้านนางโสภา เกียรตินิรชา อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องใน
วันสตรีสากล ประจำปี 2567 กสร.เตรียมจัดงานมอบรางวัลสตรีทำงานดีเด่น ครั้งที่ 28 ชูแนวคิด “แรงงานสตรีสร้างความเสมอภาคและการทำงานที่มีคุณค่า พัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล” ในวันที่ 8 มีนาคมนี้ ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร พร้อมโชว์ศักยภาพ 31 สตรีทำงานดีเด่นจากภาคส่วนต่างๆ ทั้งระดับบริหารและระดับปฏิบัติการ ในภาคราชการ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน ตลอดจนผู้ประกอบอาชีพอิสระ และเครือข่ายด้านแรงงาน อาทิ พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) รับรางวัลสาขาสตรี
นักบริหารภาคราชการดีเด่น, นางวรีพร ชาวบางพระ พนักงานเก็บรักษาของสถานธนานุเคราะห์ 31
สตรีผู้ปฏิบัติการดีเด่น, น.ส.แอนโทเนีย โพซิ้ว นางงาม นักแสดง ศิลปินสตรีดีเด่น, และสื่อมวลชนสตรีดีเด่น ได้แก่ น.ส.พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ ผู้ประกาศข่าวสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 เป็นต้น

Advertisement

“การพิจารณารางวัลดังกล่าวได้ผ่านกระบวนการกลั่นกรองจากหน่วยงานระดับพื้นที่ และเข้าสู่การคัดเลือกโดยคณะกรรมการสรรหาและคัดเลือกสตรีทำงานดีเด่น ซึ่งเป็นผู้แทนจากองค์กรภาครัฐ องค์กรนายจ้าง องค์กรลูกจ้าง และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อคัดเลือกสตรีที่มีผลงานสอดคล้องกับแนวคิดวันสตรีสากล สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการทำงานจนประสบความสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ซึ่งทั้ง 31 คน ที่ได้รับรางวัลในปีนี้จะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในขับเคลื่อนภารกิจด้านแรงงาน และเป็นพลังสำคัญในการสร้างสรรค์การทำงานที่มีคุณค่า เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศต่อไป” นางโสภา กล่าว

 

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image