‘สมศักดิ์’ เผยจ่อยกร่าง พ.ร.บ.ฉบับใหม่ เน้นส่งเสริมอุตสาหกรรมยา-สมุนไพร

‘สมศักดิ์’ เผยจ่อยกร่าง พ.ร.บ.ฉบับใหม่ เน้นส่งเสริมอุตสาหกรรมยา-สมุนไพร

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 4 มีนาคม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2567 ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาและเห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาระบบยาของประเทศไทย พ.ศ.2566 – 2570 โดยมี 4 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1.ส่งเสริมอุตสาหกรรมยาโดยร่วมวิจัยและพัฒนานวัตกรรมยา 2.พัฒนากลไกการเข้าถึงยาถ้วนหน้า ราคายาที่สมเหตุผล ทั้งในภาวะปกติและภาวะฉุกเฉิน 3.พัฒนากลไกสู่ประเทศใช้ยาอย่างสมเหตุผล โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และ 4.การจัดการสารสนเทศเพื่อจัดการระบบยาแบบบูรณาการ และเห็นชอบแผนส่งเสริมการผลิตวัตถุดิบยาและสมุนไพรในประเทศระยะสั้น เช่น สารสกัดฟ้าทะลายโจร เป็นต้น รวมทั้งเร่งพัฒนาสู่ประเทศใช้ยาอย่างสมเหตุผลภายในปี 2575

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในการขับเคลื่อนแผนฯ จะมีการยกร่างกฎหมายส่งเสริมเศรษฐกิจผลิตภัณฑ์สุขภาพอย่างครบวงจร ซึ่งจะเป็นกฎหมายในระดับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ซึ่งยังไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการ แต่เป้าหมายโดยรวมของกฎหมายคือ จะเป็นลักษณะของส่งเสริมอุตสาหกรรมยาและการใช้ยาอย่างสมเหตุผล

Advertisement

“เนื่องจาก เรามองว่าที่ผ่านมาในเรื่องของวัตถุดิบและสารตั้งต้นในการผลิตยา ส่วนใหญ่ประเทศไทยนำเข้าจำนวนมาก มีการผลิตวัตถุดิบเองได้ประมาณ 20 รายการ เท่านั้น ถือว่าน้อยมาก จึงต้องพัฒนาในส่วนนี้ จะทำอย่างไรให้ประเทศชาติไม่เสียโอกาส และส่งเสริมให้มีการลงทุน ก็ต้องมีกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีกฎหมายมาก่อน มีแต่การใช้คำสั่งในระดับการประชุมสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ จึงต้องผลักดันให้เป็นกฎหมายออกมาใช้บังคับ ขณะนี้มีการตั้งคณะกรรมการศึกษาการดำเนินการในส่วนนี้ โดยขอให้ส่วนที่รับผิดชอบยุทธศาสตร์ประเทศมาช่วยเป็นที่ปรึกษาด้วย ซึ่งหลังจากมีกฎหมายนี้ออกมาก็จะออกประกาศ กฎกระทรวงในมาตราที่จะใช้ในการส่งเสริมต่างๆ หรือในส่วนของหน่วยปฏิบัติเป็นระเบียบดำเนินการ” นายสมศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องอุตสาหกรรมยา ว่า ไม่มีข้อติดขัด แต่ยังไม่มีกฎหมาย อีกทั้งที่ผ่านมา ไทยไม่ค่อยได้ทำเรื่องของการส่งเสริมการลงทุนโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่ง สธ.เป็นกระทรวงที่ใช้งบประมาณซื้อเวชภัณฑ์มาก

“อย่างตอนประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ผมก็บอกให้ตั้งโรงงานวัคซีน เพราะบางคณะในมหาวิทยาลัย ลงทุน 700 ล้านบาท ทำโรงงานวัคซีน 2 ปี ก็ได้ทุนคืน ลักษณะอย่างนี้เราไม่ค่อยได้ทำ เราใช้การซื้อเป็นหลัก เราก็ต้องส่งเสริมให้โรงงานผลิตวัตถุดิบยาเกิดในไทย มีความพร้อม จะได้ใช้ยาถูก ส่งออกนำเข้าได้ประโยชน์ต่อประเทศ เรามองว่าอุตสาหกรรมประเภทนี้มีน้อยมาก ประเทศเราสามารถเพิ่มเติมได้ เป็นหมุดหมายของนายกรัฐมนตรี ที่ลงทุนด้านนี้มีประโยชน์และได้ของถูก” นายสมศักดิ์ กล่าว

Advertisement

ผู้สื่อข่าวถามว่า กฎหมายใหม่นี้จะมีรายละเอียดครอบคลุมไปถึงเรื่องของการควบคุมราคายา เพื่อไม่ให้ยามีราคาแพงด้วยหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า จะทำให้ราคายาถูกลง อย่างในช่วงต้นของรัฐบาลมีการประกาศบัญชียาหลักแห่งชาติ ยาบางประเภททำให้ซื้อยาถูกลง 700-800 ล้านบาท ส่วนเป้าหมายว่า หลังมีกฎหมายจะลดราคายาลงเท่าไร ยังไม่ได้คาดการณ์ไปถึงขั้นนั้น แต่มีแนวทางแผนการดำเนินการ ก็จะต้องดูให้ครบทุกด้าน มีคณะกรรมการที่ทำเบื้องต้นแล้ว อาจจะต้องมีที่ปรึกษาเข้ามาอีก เพราะตนคิดเอง ทำเอง ไม่ได้ ต้องใช้งบประมาณและผู้เชี่ยวชาญมาดำเนินงาน

เมื่อถามว่า มีการวางกรอบระยะเวลาในการจัดทำกฎหมายหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คณะทำงานจะวางให้ ขณะนี้ เพียงแต่มีไอเดียที่คิดตรงกัน ซึ่งทางราชการคิดมา ตนก็เห็นด้วยว่าควรทำเรื่องนี้

ต่อข้อถามอีกว่า กฎหมายจะทำให้เกิดการส่งเสริมผลิตยาเพิ่มขึ้นในระดับอุตสาหกรรม นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก็ต้องเกิดขึ้น แม้กระทั่งสมุนไพร เรามีวัตถุดิบในประเทศเรา แต่ยังไม่เอาวัตถุดิบมาสกัดเป็นสารตั้งต้นในการผลิต ก็ต้องทำขั้นที่สองขั้นที่สามต่อไป เราสนับสนุนทั้งยาแผนปัจจุบันและยาสมุนไพรในประเทศ เพราะที่ฟังจากรายงานยาสมุนไพรมีประเทศจีน อินเดีย ที่นำหน้าไปเยอะ ของเราเป็นประเทศที่สามารถปลูกสมุนไพรได้มากชนิด ก็สมควรใช้ประโยชน์ ข้อมูลนักธุรกิจที่บอกมา เรามีจุดแข็ง สังคมโลกมองจับตาประเทศไทยว่าเรามีของดีเยอะ แต่เราจะหยิบยกขึ้นมาอย่างไรก็ต้องช่วยกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image