‘สมศักดิ์’ เผยร่างพ.ร.บ.น้ำเมา ฉบับ สธ.เป็นกลางแล้ว ชี้รัฐบาลต้องฟังคนรุ่นใหม่

‘สมศักดิ์’ เผยร่างพ.ร.บ.น้ำเมา ฉบับ สธ.เป็นกลางแล้ว ชี้รัฐบาลต้องฟังคนรุ่นใหม่

จากกรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. … ฉบับของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โดยให้คณะกรรมการกฤษฎีกาทบทวนสาระเพื่อให้เกิดความสมดุลมิติสุขภาพและเศรษฐกิจ และให้เลขาธิการนายกรัฐมนตรีศึกษาว่าต้องการผ่อนปรนกระตุ้นเศรษฐกิจในด้านใด ให้เสนอกลับ ครม.ภายใน 1 สัปดาห์ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า รัฐบาลจะผลักดันให้เกิดการเดินหน้าแต่ด้านเศรษฐกิจ ผ่อนปรนการควบคุมต่างๆ หย่อนลง โดยไม่สนใจมิติด้านสุขภาพ

วันนี้ (4 มีนาคม 2567) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีหลายฉบับที่เสนอเข้ามา มีทั้งของพรรคการเมือง ภาคประชาชน รวมถึงฉบับของรัฐบาล คือ สธ.ซึ่งผ่านความเห็นชอบของ ครม.ไปแล้ว โดยเขียนออกมาลักษณะกลางๆ คล้ายกับฉบับของทางกลุ่มเครือข่ายภาคประชาชน แต่ส่วนของพรรคการเมืองออกมาลักษณะไม่ค่อยตรงกับเครือข่ายภาคประชาชนที่มาร้องขอเท่าไรนัก จะมีความแรงกว่า จึงต้องอยู่ที่ส่วนสุดท้าย คือ กรรมาธิการจะบูรณาการอย่างไร เมื่อวาน (3 มีนาคม 2567) นายกฯ ก็กรุณาให้บุคลากรที่จะจับเรื่องนี้มาลองรวบรวมประเด็นที่สมควรว่าจะออกมาเป็นอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งเรื่องสุขภาพ เศรษฐกิจ และอื่นๆ ด้วย

“มีหลายประเด็นในเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งคำนิยาม เวลาเปิดปิด เวลาการจำหน่าย เรื่องติดฉลากคำเตือน มีหลายอย่าง เมื่อมีความเห็นไม่ตรงกันก็ต้องหาคนกลาง ถ้าดีที่สุดเวลากฎหมายเข้าไปสู่สภาฯ ตามประเพณีปฏิบัติ สภาฯ ก็จะรับรองทุกร่าง แล้วจะเอาร่างไหนเป็นหลัก ส่วนใหญ่ก็ใช้ร่างของรัฐบาลเป็นหลัก แต่ก็สามารถนำเอาส่วนของพรรคการเมืองเข้ามาใช้ได้ในบางมาตราที่เอามาผสมผสานกันได้ อยู่ที่เทคนิคของประธานกรรมาธิการและกรรมาธิการวิสามัญชุดนั้นๆ” นายสมศักดิ์ กล่าว

Advertisement

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากมติ ครม.ที่ออกมาทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลจะผลักดันด้านเศรษฐกิจเพื่อเอื้อกลุ่มธุรกิจอย่างเดียว นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่ แต่เป็นภาพรวมทุกมุม ถ้าไปมองมุมใดมุมหนึ่งแล้ว ก็อาจจะเป็นคำตอบเหมือนคำถามที่ถามมา ถ้ามองให้เป็นเรื่องก็จะเป็นเรื่อง ถ้ามองว่าจะเป็นเรื่องที่หาทางให้ได้ประโยชน์สูงสุดในทุกมุม ทั้งความปลอดภัย เศรษฐศาสตร์ การปกครองต่างๆ เรื่องปกติเวลาจำหน่ายต่างๆ ก็เปิดไว้ให้แล้ว เช่น สถานบริการถูกกฎหมาย เป็นต้น

เมื่อถามว่า มีข้อมูลเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว พบว่า มาจากอาหารและเครื่องดื่มเพียง 1 ใน 6 เท่านั้น จะเอาไปชี้แจงต่อ ครม.ที่จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ด้วยหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก็ต้องให้รวบรวม คณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ และคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ก็มีมติให้ไปรวบรวมและทำแนวทางการศึกษาในข้อเท็จจริงทุกมุมในช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งการพิจารณาก็ต้องเอาไปใช้ทั้งหมด จะใช้ครึ่งเดียวไม่ได้

“วันนี้ โลกสมัยใหม่ คนหนุ่มคนสาวก็ไม่เหมือนคนหนุ่มคนสาวในรุ่นปู่ย่า ความคิดแนวทางต่างๆ เปลี่ยนไป รัฐบาลก็ต้องฟัง แล้วจะออกมาในรูปแบบคนส่วนใหญ่ยอมรับได้ ถ้าไม่ฟังเขาก็ว่าเป็นคนโบราณ ใครก็ไม่อยากถูกกล่าวหาว่าโบราณ” นายสมศักดิ์ กล่าว

Advertisement

เมื่อถามย้ำว่า ที่ให้มีการไปพิจารณาผ่อนปรนเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ในการทำสาระร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มียกตัวอย่างหรือไม่ว่าเป็นเรื่องอะไร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่เห็นมี ก็ประชุมตรงไปตรงมา

ต่อข้อถามว่า กังวลว่าจะเป็นการปลุกม็อบมาหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เราก็มีม็อบมาตลอด ถ้าเรามีเหตุมีผลก็ไม่เป็นไร ถ้าไม่มีเหตุมีผลมันก็ไม่ตก

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image