บอร์ด สปสช.อนุมัติซื้อยาใหม่เข้าบัญชียาหลักแห่งชาติ 44 ล. ดูแลผู้ป่วยบัตรทอง

บอร์ด สปสช.อนุมัติซื้อยาใหม่เข้าบัญชียาหลักแห่งชาติ 44 ล. ดูแลผู้ป่วยบัตรทอง

วันนี้ (7 มีนาคม 2567) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เปิดเผยว่า ในการประชุมบอร์ด สปสช. เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้มีการรับทราบ “รายการยาที่ผ่านการพิจารณาของคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ” และเห็นชอบอนุมัติวงเงินงบประมาณในจัดหายา จำนวน 44.326 ล้านบาท

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า รายการยาที่เพิ่มเข้ามาในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง 30 บาทครั้งนี้ มี 2 กลุ่ม รวม 6 รายการ ประกอบด้วย

Advertisement

1.กลุ่มยาเดิมเพิ่มเงื่อนไข ได้แก่ ยาอะดาลิมูแมบ (adalimumab) สำหรับรักษาโรคข้ออักเสบไม่ทราบสาเหตุในเด็กชนิดไม่มีอาการทางระบบ ยาริทูซิแมบ (rituximab) สำหรับรักษาโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองนอนฮอดจ์กิน ชนิดฟอลลิเคิลระยะลุกลาม ยาทราสทูซูแมบ (trastuzumab) สำหรับรักษาโรคมะเร็งต่อมเต้านมระยะเริ่มต้นที่ยังไม่มีการกระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองรักแร้ แต่มีขนาดของก้อนมะเร็งเต้านมโตมากกว่า 2 เซนติเมตร และ ยาอิมมูโนโกลบูลิน (intravenous immunoglobulin หรือ IVIG) สำหรับรักษาโรคระบบประสาทสั่งการอักเสบหลายตำแหน่ง และโรคสมองอักเสบจากภูมิคุ้มกัน

2.กลุ่มยาใหม่ ได้แก่ ยาบอร์ทีโซมิบ (bortezomib) สำหรับรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดมัยอีโลมา ที่เข้าเงื่อนไขการปลูกถ่ายไขกระดูก และ น้ำมันเอธิโอไดซ์ (ethiodized oil) สำหรับใช้ผสมกับยาเคมีบำบัดในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งตับ หรือใช้ผสมกับกาวไซยาโนอะคริเลต (cyanoacrylate glue) ในการทำหัตถการที่ผ่านสายสวนหลอดเลือดแดงในการเปิดหลอดเลือดแดงที่อุดตัน (endovascular treatment) เพื่อรักษาโรคหลอดเลือดผิดปกติ

Advertisement

ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า รายการยา 5 อันดับแรกนี้ ตามกระบวนการจะใช้วิธีการจัดซื้อร่วม มีเพียงยารายการสุดท้ายให้เป็นการจ่ายชดเชยในระบบ DRGs เนื่องด้วยอัตราการจ่ายชดเชยได้รวมค่ายาแล้ว โดยประมาณการณ์รวมทั้งหมดใช้งบประมาณ จำนวน 75 ล้านบาท ซึ่งในช่วงก่อนสิ้นปีงบประมาณ 2567 (มีนาคม – กันยายน) การจัดหายาจะใช้งบประมาณอยู่ที่ 44 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณที่ได้จากการประหยัดจากการจัดซื้อร่วมตามแผนการจัดซื้อยาฯ ของปีงบประมาณ 2567

“ยา 6 รายการนี้ จัดอยู่ในกลุ่มยาที่มีราคาแพง ที่ในอดีตเป็นอุปสรรคอย่างยิ่งต่อการเข้าถึงการรักษาของผู้ป่วย แต่ภายหลังจากที่คณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติได้ให้การรับรองประสิทธิผลการรักษา สปสช. จึงได้ดำเนินการจัดซื้อให้แก่ผู้ป่วยในระบบโดยเร็ว เพื่อให้เกิดการเข้าถึงการรักษาได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึงมากที่สุด” นพ.จเด็จ กล่าว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image