‘นิค อสรพิษวิทยา’ ยันเอง เนื้องูเหลือม ไม่ผ่าน เหนียว จืดไร้รสชาติ ไม่ใช่ทางเลือกใหม่
กรณีที่เวลานี้ มีความพยายามรณรงค์เรื่องให้กิน งูเหลือม เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ ในความยั่งยืนทางด้านอาหารนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายนิรุทธิ์ ชมงาม หัวหน้ากลุ่มอสรพิษวิทยา ผู้เชี่ยวชาญเรื่องงู และสัตว์เลื้อยคลาน กล่าวกับ มติชนออนไลน์ ว่า ในเรื่องนี้ แยกเป็น 2 เรื่อง คือ ความเหมาะสม กับความเมตตา ความเหมาะสมคือ เวลานี้ ประเทศไทยมีความสมบูรณ์เรื่องระบบนิเวศน์การเป็นอยู่ของงูเหลือมอย่างมาก เพราะสภาพแวดล้อม ที่เอื้อให้มีเหยื่อคือ หนูที่คอยมากินเศษซากอาหารที่เหลือทิ้งในแต่ละวันจำนวนมาก และแม้ไม่มีหนู งูเหลือมก็ยังมีแมวบ้าน และหมาแมวจรจัดที่สามารถเป็นอาหารของมันได้จำนวนมาก ตนมองว่า การลดจำนวนประชากรงูเหลือมนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
“แม้ว่าจะพยายามรณรงค์ให้กินเนื้องูเหลือม โดยให้เหตุผลว่า เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ ในความยั่งยืนทางด้านอาหาร หรือกระทั่ง เพื่อลดจำนวนประชากรงูเหลือมก็เถอะ ทำยาก ที่สำคัญก็คือ งูเหลือมนั้น เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง มีสามารถนำมาทำแบบนี้ได้ ทั้งนี้การรณรงค์ เพื่อให้คนกินเนื้องูเหลือม ผมมองว่า ก็จะได้แค่คนกลุ่มหนึ่ง กลุ่มเล็กๆเท่านั้น งูไม่ใช่อาหารที่คนไทยส่วนใหญ่จะเปิดใจรับเพื่อเป็นอาหาร”นายนิรุทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่า เคยกินเนื้องูไหม นายนิรุทธิ์ กล่าวว่า เคยโดนเพื่อนหลอกให้กินโดยที่ตอนแรกไม่รู็ว่าเป็นเนื้ออะไร เพื่อนบอกว่า เป็นต้มโคล้งไก่ แต่ผมรู้สึกว่า มันเป็นเนื้อไก่ที่เหนียวมากไป และไม่มีรถชาติเลย
“พอเพื่อนเฉลยว่า เป็นเนื้องูเหลือม ก็ไม่ได้รู้สึกแปลก เพราะ คิดว่า เนื้อไก่ไม่น่าจะเหนียวอะไรขนาดนั้น ด้วยเป็นเพราะงูเหลือมเป็นสัตว์ที่มีกล้ามเนื้อแข็งแรงมาก เนื้อจึงเหนียวเป็นพิเศษ ใช้เวลาในการเคี้ยวนานมาก โดยคนทำบอกว่า ก่อนเอามาต้มต้องเอาไปย่างเสียก่อน จากนั้นฉีกออกเป็นชิ้นๆลงไปต้ม และต้องใช้เวลานานมากกว่าที่เนื้อจะเปื่อย ซึ่งที่ผมกินไปนั้นเนื้อก็ไม่ได้เปื่อยเลย สรุปคือ ไม่อร่อย ไม่ผ่านครับสำหรับผม และคิดว่า การทำให้งูเหลือมเป็นทางเลือกใหม่และเป็นความยั่งยืนด้านอาหาร คงมีคนเปิดใจยาก ทั้งรสชาติ และเรื่องกฏหมายภายในประเทศเราด้วยครับ”นายนิรุทธิ์ กล่าว