ทส.ลดมลพิษ หมอกควันข้ามแดน อบรมเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ประเทศ ควบคุมไฟป่า

ทส.ลดมลพิษ หมอกควันข้ามแดน อบรมเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ประเทศ ควบคุมไฟป่า

ปัญหามลพิษจากหมอกควันข้ามแดนมีความรุนแรงมากจนกลายเป็นปัญหารุนแรงด้านสุขภาพของประชาชน กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และกระทบต่อการท่องเที่ยวอันจะส่งผลต่อรายได้ของประเทศ ตลอดจนสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติหมอกควันข้ามแดนยังเป็นปัญหาระดับภูมิภาคและระดับโลกที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วนทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติจำเป็นต้องร่วมมือกันผลักดันแก้ไขปัญหา และปัจจุบันยังมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งมักเกิดขึ้นในหน้าแล้งของทุกปี
สาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ป่า เนื่องจากประชาชนที่เข้าไปครอบครองได้แผ้วถางป่าและจุดไฟไหม้เผา และทำให้เกิดการลุกลามจนควบคุมไม่ได้ สร้างปัญหาหมอกควันข้ามแดนตามมาในที่สุด

นายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา ผู้อำนวยการสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า กล่าวว่า ทส.กับความร่วมมือจัดการหมอกควันข้ามพรมแดนนั้นได้ให้ความสำคัญมาตลอด ล่าสุดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมประชุมกับฝ่ายทหารทั้ง 3 ประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ พม่า ลาว และกัมพูชา เพื่อร่วมมือกันป้องกันไฟป่าข้ามแดน ล่าสุดมีการจัดการประชุมที่จังหวัดเชียงใหม่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
การประชุมครั้งนี้เพื่อวางแผนในอนาคตว่า ทส.จะมีการฝึกร่วมกันกับทั้ง 3 ประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อช่วยป้องกันและดับไฟป่า และป้องกันปัญหาหมอกควันข้ามแดน โดยใช้การถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านต่างๆ เข้ามามีส่วนช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว

นายนฤพนธ์กล่าวว่า โดยมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ เพื่อบริหารจัดการปัญหาหมอกควันข้ามแดน เช่น แอพพลิเคชั่นในการตรวจวิเคราะห์สภาพอากาศ ตรวจความแห้งแล้ง อย่างดาวเทียมจะสามารถบอกได้ว่าสถานที่ใดมีไฟเกิดขึ้นบ้าง และมีการใช้โดรน (อากาศยานไร้คนขับ) ในการบินลาดตระเวน

Advertisement

สำหรับปีนี้ 2567 มีการวางหลักสูตรร่วมกัน 2 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรที่ 1 หลักสูตรการดับไฟป่าสำหรับผู้ปฏิบัติงานภาคสนาม หลักสูตรที่ 2 หลักสูตรสำหรับผู้ปฏิบัติงานประจำศูนย์สั่งการ (War Room) โดยเบื้องต้นทั้ง 2 หลักสูตรนี้มีเพื่อทำการฝึกสำหรับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ และผู้ที่อยู่ ใน War Room หรือห้องปฏิบัติการต่างๆ เพื่อนำข้อมูลต่างๆ ในพื้นที่มาวิเคราะห์สถานการณ์และส่งให้หน่วยงานภาคสนามทำงานร่วมกันอย่างทันท่วงที โดยมีเจ้าหน้าที่จากทั้งสามประเทศเพื่อนบ้านจะมาร่วมฝึกอบรมกับเรา เพื่อเสริมสร้างศักยภาพให้เจ้าหน้าที่ ส่งเสริมความร่วมมือการแก้ปัญหาหมอกควันในระดับภูมิภาค

นายนฤพนธ์กล่าวว่า แม้ขณะนี้สถานการณ์หมอกควันข้ามพรมแดนจะลดน้อยเบาบางลง เนื่องจากกำลังจะย่างเข้าสู่ฤดูฝน แต่สำหรับประเทศไทยยังมีสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และแม่ฮ่องสอนคุกรุ่นอยู่ ซึ่งในประเทศเพื่อนบ้านกลับมีลดน้อยลง เนื่องจากมีการเผาป่าช่วงหน้าแล้งไปมากแล้ว แต่ยังมีการเฝ้าระวังและปัญหานี้ยังคงวนเวียนอยู่ทุกๆ ปี ทำให้ต้องมีการประสานความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง

การแก้ปัญหาจากสถานการณ์ไฟป่าอย่างหนักที่ผ่านมา ฝั่งประเทศไทย ทส.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านต่างๆ จะมีการแจ้งประชาชนในพื้นที่ เช่น ขณะออกจากบ้านให้ระมัดระวัง สวมหน้ากากอนามัย หรือหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีหมอกวันเป็นจำนวนมาก

Advertisement

“เรื่องการดับไฟกรมอุทยานฯ ทำเต็มที่และร่วมกับทุกภาคส่วน มีการแจ้งเตือนสถานการณ์ฝุ่นควันอย่างทั่วถึงทุกพื้นที่และทันท่วงที เพื่อให้ประชาชนรับทราบข้อมูลที่รวดเร็วและถูกต้อง” นายนฤพนธ์กล่าว

สำหรับการวางแผนฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อป้องกันและควบคุมไฟป่าของเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ประเทศ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันระดับภูมิภาค ถือเป็นความร่วมมือชายแดนไทยกับเพื่อนบ้าน เพื่อให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด อีกทั้งมีความจำเป็นต้องผนึกกำลังและร่วมกันแก้ปัญหานี้ ขับเคลื่อนความร่วมมือเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาด้านปัญหาไฟป่าหมอกควันและมลพิษทางอากาศของภูมิภาคอาเซียนอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนและทรัพยากรสิ่งแวดล้อมให้ได้ต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image