ปธ.ชุมชนตรอกโพธิ์ ยันไม่จริง! ‘ข่าวลือเผาไล่ที่’ สร้างห้าง – เร่งหาห้องเช่าเยียวยา

ชาวตรอกโพธิ์ เยาวราช ลั่น ไม่จริง! ‘ข่าวลือเผาไล่ที่’ สร้างห้าง-โรงแรม ‘ประธานชุมชน’ เร่งหาห้องเช่าเยียวยา

จากกรณีเกิดเหตุไฟไหม้ภายในชุมชนตรอกโพธิ์ ถนนเยาวราช แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กระทั่งเพลิงได้ลุกลาม สร้างความเสียหาย 4 คูหา ขณะนี้เพลิงลุกลามเข้าอาคารข้างเคียงเป็นอาคารพาณิชย์ สูง 6 ชั้น และ 8 ชั้น อยู่ด้านซอยมิตรสัมพันธ์ เมื่อคืนวันที่ 6 กรกฏาคมที่ผ่านมานั้น

วันที่ 8 กรกฏาคม เวลา 14.00 น. ที่วัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร (วัดเกาะ) เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ หนึ่งในจุดพักพิงชั่วคราวของผู้ประสบเหตุเพลิงไหม้ตรอกโพธิ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ ต่อแถวที่จุดรับบริจาคหน้าอาคารรองรับถุงช่วยเหลือ โดยต้องลงทะเบียน ณ จุดลงทะเบียนบริเวณหน้าโบสถ์ เพื่อแสดงตัวตนสำหรับการต้องการความช่วยเหลือ (บัตรสีชมพู) และ รับบัตรเขียวแสดงต่อเจ้าหน้าที่เพื่อรับสิ่งของช่วยเหลือ อาทิ อาหารกล่อง น้ำดื่ม กระดาษชำระ และอุปกรณ์ยังชีพต่างๆ

ADVERTISMENT

ทั้งนี้ ประชาชนและภาคเอกชน ทยอยเดินทางมาบริจาคสิ่งของต่อผู้ประสบเหตุเพลิงไหม้ตรอกโพธิ์อย่างต่อเนื่อง โดยมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกช่วยลำเลียงสิ่งของบริจาค และจัดระเบียบเพื่อแจกจ่ายต่อไป

น.ส.ภูริตา ดลชวานนท์ อายุ 39 ปี ประกอบอาชีพค้าขาย ให้สัมภาษณ์ ‘มติชน’ ว่า ตนอาศัยอยู่ในชุมชนตรอกโพธิ์บริเวณท้ายซอย โดยอยู่กับครอบครัวจำนวน 3 คน ได้แก่ ตน แม่ และลูก ซึ่งผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ชุมชนตรอกโพธิ์เยาวราช ส่งผลให้ห้องเช่า (ท้ายซอย) ที่ตนให้กลุ่มแรงงานต่างด้าวเช้าอาศัยนั้น ได้รับความเสียหายบางส่วน แต่บ้านของคุณแม่และพี่ชายได้รับความเสียหายทั้งหลัง (อยู่กลางซอย)

ADVERTISMENT

“ประมาณช่วง 20.45 น. คนเริ่มทยอยออกมากันหมดแล้ว และไฟโหมลามมาหนักมากตั้งแต่ต้นซอย มีจังหวะลมพัดมาด้านหลังทั้งเวิ้ง เพราะว่าทางตรงที่เป็นทางเข้าชุมชนตรอกโพธิ์ แต่ทางขวามือเป็นซอยเล็กๆ คือ ซอยที่พวกเราอยู่ได้รับความเสียหายแถบหนึ่งไปเลย ตอนที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ มีกลุ่มคุณป้าในซอยออกมาช่วยกันดับเพลิงก่อน พอเริ่มดับเพลิงไม่ไหว ก็ต้องเรียกคนงานต่างด้าวออกมาช่วย” น.ส.ภูริตาเผย

น.ส.ภูริตาเผยว่า ตอนที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ และได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนคุณแม่ที่รับฟังข่าวจาก จส.100 แต่ตนคิดว่าน่าจะไหม้แค่แป๊ปเดียว เดี๋ยวก็ต้องดับ เพราะปกติไฟไม่ได้ลามมาหนักเหมือนครั้งนี้ สักพักหนึ่งไฟเริ่มสูงขึ้น กลายเป็นลุกลามจนดับไม่ทัน และรู้สึกว่าถูกฉีดน้ำเข้ามาทั่วทุกทิศ มารวมจุดกลางที่เดียว พอลมพัด ไฟก็เปลี่ยนไปทางซ้ายบ้างขวาบ้าง เอาไม่อยู่

ภูริตา ดลชวานนท์

น.ส.ภูริตากล่าวต่อว่า บ้านที่เป็นจุดเกิดเหตุนั้นประมาณบ้านเลขที่ 10 อยู่ตรงหัวซอยชุมชน ไหม้เป็นบ้านแรก และน่าจะเป็นต้นเพลิง ส่วนตรงข้ามเป็นตู้เก็บถังแก๊ส ซึ่งถ้าไม่ใช่คนในชุมชนตรอกโพธิ์จะไม่ทราบเลยว่า ตู้นี้เก็บอะไร พอเกิดเพลิงไหม้สะเก็ดไฟไปฝั่งตรงข้ามที่เป็นตู้แก๊ส จึงทำให้แก๊สระเบิด แต่ไม่ทราบว่าถังเล็กหรือถังใหญ่ ประกอบกับการฉีดน้ำดันเข้าไป ลมจะเปลี่ยนทิศไปทางซอยบ้านตน ไล่โค้งไปทะลุเยาวราชซอย 7 โดนไฟลามเป็นเวิ้ง

น.ส.ภูริตา เผยด้วยว่า จากกรณีที่มีกระแสว่ามีการไล่เผาที่เพื่อจะสร้างโรงแรมหรือห้างนั้น ขอบอกเลยว่า ‘ไม่มี’ จากที่ตนอยู่มา 40 ปี เกิดที่นี่ และแม่ของตนอยู่มา 60 ปี บ้านนี้อยู่มาตั้งแต่ทวด คิดว่าไม่มีแน่นอน ส่วนใหญ่ถ้าเกิดเหตุการณ์จะไม่รุนแรงเท่าครั้งนี้

“นี่คือรุนแรงที่สุด สุดมาก และเกิดเหตุการณ์แบบนี้ไม่บ่อย ล่าสุดคือเมื่อปี 2565 ที่ร้านติ่มซำ ที่แก๊สระเบิด ซึ่งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของบ้าน บ้านเราจึงไม่ได้รับผลกระทบ

“ส่วนน้อยที่คนจะรู้จักชุมชนตรอกโพธิ์ อยู่มา 40 ปี ไม่มีใครรู้จักหรอก แต่ถ้าบอกว่าอยู่เยาวราช คนก็จะรู้จัก แต่อย่างที่มีข่าวบอกว่าเขาเผาไล่ที่ ไม่ให้คุณอยู่หรอก เขาจะทำเป็นโรงแรม แต่เราอยู่ในหลืบ ต่อให้คุณทำโรงแรมก็ไม่ได้สะดวกสบายหรอก เราอยู่มาเรารู้ บ้านไหนพัง บ้านไหนจะหล่น แต่คนนอกไม่รู้

แต่ถ้าจะทำโรงแรมหรือห้างคิดว่าไม่โอเค พูดตรงๆ เลยคือ เราอยู่ในรู ไม่มีใครรู้จัก คนจะรู้จักช่วงหลังคือฝรั่ง ที่ไกด์พาขับเข้ามาทะลุโรงพยาบาลเทียนฟ้ามูลนิธิ เข้ามาตัดเยาวราชและเข้าสำเพ็ง คือจริงๆ แล้วมันไหม้ตรงตรอกโพธิ์” น.ส.ภูริตากล่าว

ส่วนกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่เช่าพักบ้านของตน ไปพักพิงอยู่ตามร้านที่กลุ่มๆ นั้น ทำงานอยู่ที่ร้านเถ้าแก่ แต่ไม่ได้มาอยู่ที่วัดเกาะ รวมถึงตนก็ไม่ได้มานอนที่วัดเกาะ แต่จะมีเพียงพี่ชายและหลานที่นอนที่นี่

“วันนี้มาเดินเรื่องให้ลูกบ้าน เนื่องจากต้องมาเซ็นยินยอมว่าแรงงานต่างด้าวเช่าบ้านเราอยู่จริง เพื่อที่แรงงานต่างด้าวจะได้รับของบริจาค ได้รับการเยียวยา ได้รับสิ่งที่พวกเขาควรจะได้รับ เป็นเหมือนครอบครัวเรา ก็ควรจะได้รับ อย่างเมื่อวาน มาทำได้ห้องเดียว วันนี้ก็มาทำเพิ่มอีกห้องเช่าหนึ่ง” น.ส.ภูริตากล่าว

น.ส.ภูริตากล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการที่รัฐเข้ามาช่วยเหลือ ก็เป็นที่พึงพอใจในระดับหนึ่ง ที่สามารถเข้ามาช่วยเหลือได้ทันท่วงที ในการอพยพผู้ประสบภัยให้มาพักพิงที่วัดเกาะ) ก่อน เพราะทุกคนต่างไม่รู้จะไปที่ไหน วิ่งออกมาแต่ตัวทุกคน พวกแรงงานต่างด้าวห้องตนทิ้งบัตรพาสฟอร์ต บัตรทำงาน และของทุกอย่างอยู่ในห้องหมด เขาเอาชีวิตของเขาออกมาด้วยเสื้อผ้าชุดเดียว

“ตอนนี้ยังไม่ได้เข้าบ้าน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังกั้นไว้อยู่ตั้งแต่ปากซอย 2 ฝั่งตั้งแต่เยาวราชซอย 7 หรือตรงที่ถล่มก็กั้น เพราะควันไฟยังระอุอยู่” น.ส.ภูริตากล่าว

น.ส.ภูริตา กล่าวทิ้งท้ายว่า ชุมชนตรอกโพธิ์เราอยู่กันเหมือนพี่น้อง เจอหน้ากันทุกวัน รู้จักกันหมด มีอะไรก็ช่วยเหลือกันได้หมด

ด้าน น.ส.วลีรัตน์ แซ่ตั้ง อายุ 69 ปี ประธานชุมชนตรอกโพธิ์ กล่าวว่า ตนอยู่อาศัยอยู่ในชุมชนนี้ตั้งแต่เกิด พอเกิดเหตุเพลิงไหม้ก็ได้รับผลกระทบไหม้หมดทั้งหลัง โดยทราบเหตุเมื่อช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. มีเสียงตะโกนว่า ‘ไฟไหม้ๆ’ ตอนนั้นกำลังนอนดูทีวีอยู่ในบ้าน จึงรีบเปิดประตูออกมาดู พบว่าไฟลุกลามแรงมากจากข้างนอกก่อน ก่อนโทรศัพท์เรียกรถดับเพลิงมา

“ของทั้งหมดอยู่ในบ้าน เราพกแค่ของสำคัญบางส่วนออกมา แต่ไม่ทราบจริงๆ ว่าไฟไหม้มาจากที่ไหน คงให้ตำรวจไปจัดการเอง ส่วนกระแสที่ว่ามีการไล่เผาที่ เพื่อจะสร้างโรงแรมหรือห้าง คิดว่าไม่มี ไม่เกี่ยวกับเรา คิดว่าเป็นอุบัติเหตุจากบ้านต้นซอยมากกว่า“ น.ว.วลีรัตน์ กล่าว

น.ส.วลีรัตน์ กล่าวต่อว่า ตอนเกิดเหตุเพลิงไหม้มีความวุ่นวายมาก ทุกคนออกมาข้างนอกหมดเลย แต่หลังจากนั้นตนไม่ได้เข้ามาอยู่ในสถานพักพิงที่นี่ เพราะมีบ้านอยู่ที่อื่น ส่วนคนในชุมชนจะมาพักที่วัดเกาะเป็นส่วนใหญ่

วลีรัตน์ แซ่ตั้ง

สำหรับการช่วยเหลือและเยียวยา ส่วนใหญ่ให้แก่คนในชุมชนเป็นถุงยังชีพ น้ำดื่ม อาหารและค่ารับเงินเยียวยาเป็นค่าเช่าจำนวน 3,000 บาท แต่อย่างอื่นยังไม่รู้ โดยวันนี้ตนไม่ได้มาเอาของเหล่านี้ ให้เป็นของชาวบ้านผู้ประสบภัยคนอื่นๆ

“ค่อนข้างพอใจกับมาตรการช่วยเหลือ ดีกว่าไม่ได้ ในฐานะที่เป็นประธานชุมชน ก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าจะเกิดเหตุเพลิงไหม้แบบนี้ขึ้น เพราะครั้งนี้เป็นครั้งที่รุนแรงที่สุด ไม่เคยหนักแบบนี้ หลังจากครอบครัวอยู่ที่นี่มาเป็น 100 ปี ต่อจากนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไรต่อ แต่ก็ได้มีการพูดคุยหารือกับชาวบ้านเรื่องการหาห้องเช่าเยียวยา” น.ส.วลีรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image