‘สมศักดิ์’ ยันรัฐบาล-เพื่อไทย ไม่หนุน ‘บุหรี่ไฟฟ้า’ ชี้ถ้าสภาฯยอมคือหนทางอับเฉา
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการบุหรี่กับสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 22 เรื่อง “สานพลังปกป้องเด็กไทยจากบุหรี่ไฟฟ้า: รอดด้วยรัฐสภา” โดยมี ผศ.นพ.วิชช์ เกษมทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ ผู้บริหารหน่วยงานภาคีเครือข่าย และผู้แทนนักเรียน เข้าร่วม ที่โรงแรมแกรนด์ริชมอนด์ จ.นนทบุรี
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า บุหรี่ไฟฟ้านำมาซึ่งปัญหาสุขภาพ เช่น โรคมะเร็ง โรคระบบทางเดินหายใจ ของทั้งผู้สูบและผู้ใกล้ชิด ทำให้เจ็บป่วย และเสียชีวิตก่อนวัยอันควร พร้อมมีค่าใช้จ่ายในการเยียวยารักษาสูง โดยเด็กและเยาวชน มีอัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้าสูงกว่าวัยอื่นๆ และมีแนวโน้มสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง โดยเฉพาะปัจจุบันที่กำลังเผชิญกับสถานการณ์เด็กเกิดน้อย สังคมสูงวัย รัฐบาลจึงมุ่งเน้นที่จะแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง โดยมีมาตรการ ทั้งการปราบปราม จับกุมผู้ลักลอบนำเข้า และจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า การรณรงค์เผยแพร่ความรู้ เกี่ยวกับโทษของบุหรี่ไฟฟ้าต่อผู้สูบและผู้ใกล้ชิด การสร้างความตระหนักรู้ ถึงข้อกฎหมายและบทลงโทษ ต่อการกระทำความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อที่จะปกป้องการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าของคนไทย
“เวทีนี้ จะเป็นเวทีให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทุกภาคส่วน ได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ แบ่งปันประสบการณ์ ร่วมหาแนวทางในการป้องกัน และแก้ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าของประเทศ ซึ่งทุกภาคส่วนคือกำลังสำคัญ ที่จะต้องสานพลังร่วมกัน ทั้งพลังสภาผู้แทนราษฎร กฎหมาย การแพทย์ วิจัย การศึกษา จังหวัด ชุมชน ครอบครัว เยาวชน และสื่อมวลชน ขอขอบคุณศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญ และได้ร่วมกันระดมความคิดเห็น เพื่ออนาคตของเด็กไทยของเรา” นายสมศักดิ์ กล่าว
นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า เรื่องบุหรี่ไฟฟ้าเกี่ยวข้องกับสภาฯด้วย เพราะมีกฎหมายการนำเข้า ไม่นำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า โดยมองว่า หากสภาฯยอมให้นำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า คือ หนทางอับเฉา แต่ถ้าสภาฯ ห้ามนำเข้า ก็คือทางรอด จึงอยากให้สังคมรับทราบ และช่วยกันรณรงค์ เนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายเป็นอย่างมาก ซึ่งคณะกรรมการชุดต่างๆ ก็ช่วยกันทำงานอย่างเต็มที่ และขอวิงวอนถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการแก้กฎหมายให้นำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เราไม่ให้นำเข้าอยู่แล้ว ดังนั้น ต้องรณรงค์ไม่ให้นำเข้า โดยต้องช่วยกันพูดคุยทั้งหมด พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลไม่สนับสนุนบุหรี่ไฟฟ้า แต่เรื่องนี้ก็มีกลุ่มคนรณรงค์นำเข้า เพราะประโยชน์ทางการค้า แต่ย้ำว่า รัฐบาลและพรรคเพื่อไทย (พท.) ไม่เอา
เมื่อถามว่า ขณะนี้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ. … และประกาศกระทรวง ยังไม่ออกมา จึงถูกมองว่าเกิดสุญญากาศ จะสามารถบังคับใช้กฎกระทรวงที่มีอยู่ได้อย่างไรบ้าง นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าสื่อมวลชนเข้าใจดีอยู่แล้ว คงไม่ต้องให้ตนตอบ
วันเดียวกัน นายสมศักดิ์ ในฐานะรองประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) คนที่ 1 เป็นประธานการประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อร่างแผนการดำเนินงานประจำปี พ.ศ.2568 ของ สสส. โดยมีกรรมการกองทุนฯ คณะกรรมการบริหารแผน ผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายสาขาวิชา ทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม เข้าร่วมกว่า 150 คน เพื่อร่วมพิจารณาแผนการดำเนินงาน ประจำปี 2568 ซึ่งเป็นไปตามหลักกระบวนการมีส่วนร่วมของ สสส.
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นฯ ครั้งนี้ เป็นกระบวนการที่สำคัญต่อการวางเป้าหมายและกรอบการทำงานของ สสส. ในปี 2568 มีนโยบายสำคัญ 5 ด้าน คือ 1.ใช้ทิศทางและเป้าหมาย ระยะ 10 ปี เป็นกรอบทิศทางการทำงาน 2.สร้างผลลัพธ์ทางสุขภาพอย่างทั่วถึงและยั่งยืน ด้วยการนำทุนเดิมมาขยายฐานการทำงาน ทั้งการผลักดันนโยบาย พัฒนาศักยภาพ องค์ความรู้ และการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน 3.สนับสนุนการพัฒนาและใช้ประโยชน์ข้อมูลสารสนเทศและเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพรองรับการเปลี่ยนแปลงทางสังคม และลดความความเหลื่อมล้ำทางสังคม 4.ให้ความสำคัญกับการลดผลกระทบของประชากรกลุ่มเปราะบางจากความเหลื่อมล้ำทางสุขภาพและปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพอุบัติใหม่ สร้างความสามารถในการรับมือต่อวิกฤตการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างต่อเนื่อง และ 5.สานพลังการทำงานกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เกิดเครือข่ายการทำงานระหว่างกันในทุกระดับ
“การลดความเสี่ยงการเกิดโรคไม่ติดต่อ NCDs เป็นประเด็นที่ สสส. ร่วมกับภาคีเครือข่าย ขับเคลื่อนเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม มีการนำองค์ความรู้ในการสร้างเสริมป้องกันขยายผลสร้างการรับรู้ไปในระดับพื้นที่ ซึ่งในส่วนของ สธ.จะสนับสนุนให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) มีส่วนร่วมเป็นกำลังหลักขยายผลสร้างการรับรู้ในระดับพื้นที่ ชุมชน หมู่บ้าน ตั้งเป้าลดจำนวนผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ให้เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น อีกทั้งปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า เป็นเรื่องที่ผมเน้นย้ำให้ความสำคัญโดยเฉพาะการลักลอกนำเข้าซึ่งผิดกฎหมาย โดยมอบหมายให้ นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ สธ. เป็นแกนหลักดำเนินการปราบปรามอย่างจริงจัง ซึ่งที่ผ่านมาสามารถยึดบุหรี่ไฟฟ้านำเข้าผิดกฎหมายได้จำนวนมาก” นายสมศักดิ์ กล่าว
ขณะที่ นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า กระบวนการจัดทำร่างแผนการดำเนินงานฯ คำนึงถึงสถานการณ์ปัจจุบันที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเริ่มด้วยการวิเคราะห์และทบทวนภาพรวมปัจจัยที่ส่งผลกระทบ ทั้งสถานการณ์ทางสุขภาพ และบริบททางเศรษฐกิจ สังคม สภาพแวดล้อม และความเปลี่ยนแปลงต่างๆ โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อให้การดำเนินงานครอบคลุมรอบด้าน สำหรับจุดเน้นในปี 2568 นอกจากขับเคลื่อนงานในประเด็นที่สอดคล้องกับสถานการณ์ อาทิ ประเด็นบุหรี่ไฟฟ้า สิ่งเสพติด สุขภาวะเด็ก สุขภาพจิต มลพิษสิ่งแวดล้อม (PM2.5) ยังจะเน้นการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายระดับท้องถิ่น อาทิ องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) กองทุนสุขภาพตำบล บูรณาการข้อมูลด้านสุขภาพระดับพื้นที่สามารถนำไปต่อยอดขับเคลื่อนลดอัตราการเจ็บป่วย พิการ เสียชีวิตระดับพื้นที่ได้ โดย สสส .และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะใช้ฐานข้อมูลสุขภาพเข้าไปเคลื่อนงานสร้างเสริมป้องกันและสร้างความตะหนักเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เกิดขึ้นตั้งแต่ในระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล ชุมชน ลงไปถึงระดับหมู่บ้าน ทั้งนี้ การรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้จะนำไปประกอบการพิจารณาปรับปรุงและนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการกองทุน สสส. ในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ ต่อไป