ปี’68 คาด ‘สูงวัย’ กระดูกสะโพกหักพุ่งกว่า 3.4 หมื่นราย สสส.ดึงภาคีเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยง

ปี’68 คาด ‘สูงวัย’ กระดูกสะโพกหักพุ่งกว่า 3.4 หมื่นราย สสส.ดึงภาคีเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยง

เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ศ.นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล รศ.พ.ต.ต.นพ.ธงชัย สุนทราภา คณะทำงานฝ่ายกิจการพิเศษ สมาคมออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภา ศ.นพ.กีรติ เจริญชลวานิช ประธานรับเลือกราชวิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) นายธวัชชัย ชีวานนท์ ประธานผู้บริหาร Product & Business Solutions รักษาการผู้บริหารสายงาน สายงานบริหารจัดการทางการเงินเพื่อธุรกิจ สายงานเทคโนโลยี ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และ ดร.จิตติ์พร ธรรมจินดา ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การพัฒนานวัตกรรมการจัดการด้านการดูแล ติดตาม และเฝ้าระวังทางสุขภาพของผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้ม และกระดูกหัก รวมถึงการหักซ้ำ ที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

Advertisement

 

Advertisement

ศ.นพ.อภิชาติกล่าวว่า ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศถูกนำมาใช้ในการประมวลผลความเสี่ยงต่อการหกล้มของผู้สูงอายุในชุมชน ส่งต่อข้อมูลความเสี่ยงให้กับหน่วยบริการปฐมภูมิในชุมชน เพื่อวางแผนเฝ้าระวังและให้มาตรการป้องกันได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งมีแนวทางการสื่อสารความรู้และการดูแลตนเองตามความเสี่ยงให้กับผู้สูงอายุ นอกจากนี้ ยังเก็บรวบรวมข้อมูลการรักษาและความจำเป็นในการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน พร้อมจัดส่งข้อมูลให้กับเครือข่ายหน่วยบริการสุขภาพทุกระดับที่เกี่ยวข้อง หากดำเนินการระบบดังกล่าวเสร็จสิ้น จะช่วยลดอัตราการเจ็บป่วยจากการพลัดตกหกล้ม ลดอัตราการเสียชีวิต เพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย รวมถึงลดภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น

“ความร่วมมือนี้ไม่เพียงแต่สนับสนุนการวิจัยเพื่อพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่สามารถสื่อสารความรู้และการดูแลตนเองตามความเสี่ยงให้กับผู้สูงอายุ รวมถึงการรวบรวมข้อมูลการรักษาและการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน และการจัดส่งข้อมูลให้กับเครือข่ายหน่วยบริการสุขภาพทุกระดับที่เกี่ยวข้องเท่านั้น แต่ยังเป็นการยกระดับนวัตกรรมด้านสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ และระบบสุขภาพในประเทศไทยอย่างยั่งยืน” ศ.นพ.อภิชาติกล่าว

นพ.พงศ์เทพกล่าวว่า จากข้อมูลของระบบสถิติทางการทะเบียนปี 2565 พบว่า ไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ โดยประชากรผู้สูงอายุในปี 2565 มากถึง 12,116,199 คน คิดเป็น ร้อยละ 18.3 ของประชากรทั้งหมด และเป็นช่วงอายุ 60-69 ปี จำนวน 6,843,300 คน คิดเป็น ร้อยละ 56.5 ของผู้สูงอายุทั้งหมด โดยมีโรคกระดูกพรุนเป็นปัจจัยสำคัญที่เพิ่มความเสี่ยงทำให้กระดูกหักมากกว่าผู้ที่ไม่เป็นโรคประมาณ 5 เท่า และคาดการณ์ว่า อุบัติการณ์ของกระดูกสะโพกหักจะเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยร้อยละ 2.02 ต่อปี

“จากข้อมูลพบว่า ผู้ป่วยกระดูกสะโพกหัก ในปี 2549 มี 23,426 ราย และในปี 2568 เพิ่มขึ้นเป็น 34,246 ราย คาดว่าในปี 2593 จะเพิ่มเป็น 56,443 ราย สาเหตุสำคัญของกระดูกสะโพกเกิดจากการพลัด ตก หกล้ม นอกจากนี้ กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รายงานในปี 2566 ในกลุ่มผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป การพลัดตก หกล้มทำให้เสียชีวิตสูงถึง 10.20 คนต่อประชากรผู้สูงอายุแสนคน สสส.ได้ดำเนินโครงการต้นแบบเพื่อสนับสนุนการพัฒนาระบบการเฝ้าระวังและป้องกันกระดูกหักและหักซ้ำ บริเวณรอบข้อสะโพกในผู้สูงอายุไทย เพื่อสนับสนุนการพัฒนาระบบการเฝ้าระวัง และป้องกันกระดูกหัก และหักซ้ำ บริเวณรอบข้อสะโพกในผู้สูงอายุไทยด้วยการพัฒนาบุคลากรสาธารณสุข และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ดำเนินงานเฝ้าระวัง และป้องกันที่เหมาะสมกับบริบทพื้นที่ ร่วมหาแนวทางพัฒนาต้นแบบระบบเทคโนโลยี ที่สามารถใช้ในการดูแล และเฝ้าระวังผู้สูงอายุ รวมถึงผลักดันนโยบายป้องกันกระดูกหักบริเวณรอบข้อสะโพกในผู้สูงอายุ ความร่วมมือในครั้งนี้ ส่งผลให้เกิด 1.พัฒนานวัตกรรมการจัดการ 2.สร้างระบบนิเวศที่เอื้ออำนวยต่อการเฝ้าระวังทางสุขภาพของผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้ม กระดูกหัก และการหักซ้ำ 3.ยกระดับการเข้าถึงสิทธิการรักษา เพื่อให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิต และสุขภาวะในชีวิตประจำวันที่ดีต่อไปในอนาคต” นพ.พงศ์เทพกล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image