ร่างแรงงานไทยเสียชีวิตในอิสราเอลรายที่ 42 ถึงไทย ญาติเตรียมฌาปนกิจที่บุรีรัมย์ 25 ต.ค.นี้
วันนี้ (22 ตุลาคม 2567) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ สายการบินอิสราเอลแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ LY 081 นำร่าง นายนิสันต์ มีรัมย์ แรงงานไทยชาว จ.บุรีรัมย์ ที่เสียชีวิตจากเหตุกระสุนระเบิดในประเทศอิสราเอลเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2567 ออกเดินทางจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2567 เวลา 22.45 น. มาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในเวลาประมาณ 15.00 น.
ต่อมาเวลา 15.38 น. เจ้าหน้าที่ได้นำร่างของนายนิสันต์มาถึงอาคารคลังสินค้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยร่างของผู้เสียชีวิตบรรจุอยู่ในโลงศพคลุมด้วยผ้าสีขาว ถูกลำเลียงออกไปโดยรถตู้ของสุริยา หีบศพ จำนวน 1 คัน เพื่อนำไปประกอบมีพิธีฌาปนกิจในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 เวลา 15.00 น. ณ วัดบ้านหนองขอน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ต่อไป
ในการนี้ นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายศักดินาถ สนธิศักดิ์โยธิน ผู้ช่วยปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นผู้แทนกระทรวงแรงงานรับศพ และร่วมวางพวงหรีดแสดงความอาลัย ก่อนนำร่างผู้เสียชีวิตกลับไปบำเพ็ญกุศลและประกอบพิธีกรรมทางศาสนาใน จ.บุรีรัมย์ ภูมิลำเนาของนายนิสันต์ โดยมีคณะเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานพร้อมใจกันแต่งกายด้วยชุดสีดำเข้าร่วมพิธี
นายศักดินาถ กล่าวว่า เบื้องต้นให้สำนักแรงงานประจำจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประจำจังหวัดรอรับร่างผู้เสียชีวิต โดยคาดว่าเคลื่อนศพไปถึง จ.บุรีรัมย์ในช่วงดึกของคืนวันนี้ (22 มิถุนายน 2567) ซึ่งทางญาติของผู้เสียชีวิตรอรับ
“จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า แรงงานเสียชีวิตขณะขับยานพาหนะ (ไม่ทราบประเภท) ทับจรวดที่ตกค้าง เกิดปะทุขึ้นมาโดนร่างทำให้เสียชีวิต ซึ่งทางฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล และกระทรวงแรงงานจะต้องหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไปว่า แรงงานผู้เสียชีวิตเข้าไปทำงานในพื้นที่สีแดง (การสู้รบ) ทางตอนเหนือของประเทศอิสราเอลได้อย่างไร ส่วนแรงงานไทยที่ได้รับบาดแผลทางใจ (อาการช็อก) อีก 1 ราย นั้น ยังไม่ทราบข้อมูลที่แน่ชัด” นายศักดินาถ กล่าวและว่า นายนิสันต์ นับเป็นแรงงานไทยรายที่ 42 ที่ได้รับอุบัติเหตุและเสียชีวิตจากการทำงานในประเทศอิสราเอล ส่วนยอดจำนวนผู้บาดเจ็บยังคงอยู่ที่ 17 ราย โดยนับจากวันที่ 7 ตุลาคม 2566
ผู้ช่วยปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ส่วนล่าสุดที่มีรายงานว่า มีแรงงานไทยได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย ชื่อ นายขวัญชัย ชงกลาง ชาว จ.นครราชสีมา แรงงานไทยที่นิคมเกษตร Ayelet HaShahar ได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าอกจากสะเก็ดระเบิดเพียงเล็กน้อยนั้น นายจ้างได้นำส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล และกลับที่พักเรียบร้อยแล้ว จึงไม่ได้นับอยู่ในยอดผู้บาดเจ็บ
“สำหรับมาตราการดูแลแรงงานไทยในอิสราเอล ทางกระทรวงแรงงานจะจัดส่งไปเฉพาะในพื้นที่ปลอดภัย (สีเขียว) เท่านั้น ไม่มีการโยกย้ายแรงงานไปพื้นที่อื่น และมีหลุมหลบภัยเพียงพอ ซึ่งเบื้องต้นยังไม่มีการชะลอส่งแรงงานไปทำงานในอิสราเอล” นายศักดินาถ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงสิทธิประโยชน์หรือการเยียวยาดูแลแรงงานที่เสียชีวิต นายศักดินาถ กล่าวว่า กระทรวงแรงงานจะดูแลสิทธิประโยชน์แรงงานไทยในต่างประเทศ โดยจะประสานหน่วยงานด้านความปลอดภัยในอิสราเอล ซึ่งกรณีเสียชีวิตจากภัยสงคราม จะได้รับเงินค่าชดเชยประมาณ 79,000 บาท และครอบครัวผู้เสียชีวิต (ภรรยา-ทายาท) จะได้รับค่าชดเชยเป็นรายเดือนประมาณ 57,000 บาท จนกว่าภรรยาจะแต่งงานใหม่หรือเสียชีวิต อีกส่วนหนึ่งคือ กองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ ของกรมการจัดหางาน (กกจ.) อยู่ระหว่างการพิจารณาตรวจสอบข้อมูล
สำหรับนายนิสันต์ มีรัมย์ แรงงานไทยผู้เสียชีวิตดังกล่าวมีอายุ 42 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.กันทรารมย์ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เดินทางไปทำงานเก็บผลไม้ที่นิคมเกษตรในคิบบุตซ์ ในเขตพื้นที่ทางเหนือของอิสราเอลติดชายแดนเลบานอน (พื้นที่สีแดงการสู้รบ) โดยนายนิสันต์ เดินทางไปอิสราเอลด้วยตนเองช่วงวันที่ 6 พฤษภาคม 2567 แต่ก็ได้รับอุบัติเหตุจากระเบิดตกค้างปะทุขึ้นมาขณะทำงานในไร่แอปเปิ้ล เป็นเหตุให้เสียชีวิต