ฉลุย! สภากทม.ไฟเขียวข้อบัญญัติ ‘ขึ้นค่าเก็บขยะกับบ้านที่ไม่แยกขยะ’ 60 บาทต่อเดือน
เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ที่ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ประธานสภากรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สี่ (ครั้งที่ 4) ประจำปีพุทธศักราช 2567 โดยมี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. คณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เข้าร่วมประชุม
ในระเบียบวาระที่ 4.1 คณะกรรมการวิสามัญฯ รายงานผลการพิจารณา ญัตติร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ค่าธรรมเนียมการให้บริการในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข พ.ศ. … เพื่อพิจารณาในวาระที่สองและวาระที่สาม
ที่ประชุมสภา กทม.ไม่มีการแปรญัตติ และไม่มีคณะกรรมการสงวนความเห็น ที่ประชุมจึงมีการโหวตร่างข้อบัญญัติฯ ดังกล่าว ผลคือ เห็นชอบ 34 คน ไม่เห็นชอบ 0 คน งดออกเสียง 2 คน จากผู้เข้าประชุม 36 คน โดยจะมีการประกาศใช้ข้อบัญญัติในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวภายหลังการประชุมว่า เดิมข้อบัญญัติฯ ปี 2562 มีการกำหนดค่าธรรมเนียมการให้บริการในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย (ค่าเก็บขยะ) ตามครัวเรือนเดือนละ 80 บาท โดยมองว่ามีค่าธรรมเนียมสูงเกินไป ผู้ว่าฯ กทม.จึงให้จัดทำข้อบัญญัติฯ ใหม่ โดยแบ่งการจัดเก็บเป็น 2 แบบ คือ 1.มีการคัดแยกขยะ ค่าธรรมเนียม 20 บาทต่อเดือน 2.ไม่มีการคัดแยกขยะ ค่าธรรมเนียม 60 บาทต่อเดือน
นายจักกพันธุ์กล่าวว่า กทม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบให้มากที่สุด คาดว่าข้อบัญญัติฯ จะมีผลบังคับใช้ในอีก 180 วัน ทั้งนี้มีจำนวนบ้านในกรุงเทพฯ กว่า 2 ล้านหลังคาเรือน ซึ่งจากการสำรวจเบื้องต้นมีประชาชนคัดแยกขยะประมาณ 50,000 ครัวเรือน
หลังจากนี้จะมีการเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่น และที่ฝ่ายรักษาความสะอาด ประจำสำนักงานเขต โดยหลังจากลงทะเบียนแล้วเจ้าหน้าที่จะลงไปตรวจสอบ เพื่อยืนยันว่ามีการคัดแยกขยะจริง และเก็บค่าธรรมเนียม 20 บาทต่อเดือน ตามเดิม
“อยากให้ประชาชนเข้าร่วมการคัดแยกขยะ เพราะจะเกิดประโยชน์ในการลดปริมาณการกำจัดขยะ ซึ่งมีค่าใช้จ่าย 2,300 บาทต่อตัน โดยค่าธรรรมเนียมที่เก็บในปัจจุบันไม่สามารถมาทดแทนกับค่ากำจัดขยะได้” นายจักกพันธุ์กล่าว