เฮียล้าน ลั่น มันแปลก! เอะใจปม ‘แต่งตั้งโยกย้าย’ ข้าราชการสำนักการแพทย์ หวั่นเสียบุคคลากรไปอีก 2
เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 เขตดินแดง นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุม สภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สี่ (ครั้งที่ 4) ประจำปีพุทธศักราช 2567 โดยมี คณะผู้บริหาร และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เข้าร่วมการประชุม
ในตอนหนึ่ง นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร หรือ เฮียล้าน ส.ก.เขตจอมทอง พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนขอปรึกษาสภากทม. ตามข้อบังคับการประชุม 39 (1) กรณีที่มีการโยกย้ายข้าราชการในสำนักการแพทย์ ตามคำสั่งของ กทม.ที่ 3660/2567 ณ วันที่ 7 ต.ค.2567 ซึ่งความจริงอยากตั้งกระทู้ถาม แต่เนื่องจากกระทู้เต็มจึงขอถือโอกาสใช้เวทีนี้พูดถึงปัญหาให้ประธานสภา กทม. ได้รับทราบข้อมูล
เรื่อง การแต่งตั้งโยกย้าย ท่านก็คงจะทราบว่าไม่ใช่อำนาจของสภาฯ แต่สภาฯ สามารถสะท้อนให้ผู้บริหาร กทม.เห็นว่า การแต่งตั้งโยกย้ายที่ผ่านมา ผู้อำนวยการศูนย์เอราวัณ เมื่อได้รับคำสั่งปุ๊บ ท่านก็ลาออกทันที เพราะให้ไปดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลบางขุนเทียน แล้วจากบัดนั้นจนวันนี้ ก็ขอลาไป 30 วัน ไม่ทำงาน
“หากวันที่ 5 พ.ย.นี้ ถ้าพ้นกำหนด ก็ถือว่าถ้าเขาไม่ถอนคำยกเลิกที่จะลาออก ก็จะมีผล เราจะขาดบุคลากรทางการแพทย์คนหนึ่งที่มีความรู้ความสามารถ ครั้งนี้ท่านเชื่อไหมว่ามันเป็นเรื่องที่แปลก ส่วน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน (นายแพทย์สุรินทร์ นัมคณิสรณ์) ท่านเองไปอยู่ได้ประมาณ 1 ปี 7 เดือน ท่านก็ทำหน้าที่เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนทางด้านสุขภาพ ตามนโยบาย แต่ท้ายที่สุดท่านอยู่ได้ประมาณ 1 ปี 7 เดือน คำสั่งก็ให้ย้ายไปเป็น ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาระบบบริการทางการแพทย์ ซึ่งทำให้พี่น้องประชาชนรอบข้าง เสียดาย ผอ.สุรินทร์ ที่เคยอยู่ที่นี่
ท่านเอง งบฯมีจำกัด ก็เลยไปขอบริจากจากเอกชนบ้าง ทางวัดก็ช่วยบริจาคกันมาประมาณ 36 ล้านบาท เอามาทำห้องผ่าตัดตา, ห้องเลือด, ห้องตรวจโรคต่างๆ เอามาทำโดยใช้งบฯ ส่วนตัว เหตุผลที่ไปขอบริจาคเพราะงบฯ ของ กทม.ไม่พอ ทางวัด ชุมชนก็ถามว่าท่านจะอยู่นานไหม ท่านก็บอกว่าคงอยู่นาน
ตรงนี้เป็นการตั้งคนไม่เหมาะกับงาน ซึ่งไม่ใช่อำนาจจากพวกเรา สภาฯ กทม. แต่อยากสะท้อนปัญหาว่า ถ้าเป็นไปได้ ต่างคนต่างย้ายกลับดีไหม ผอ.สุรินทร์ ก็ไปอยู่ที่เดิม ผอ.ศูนย์เอราวัณ ก็ไปอยู่ที่เดิม เราจะไม่ขาดบุคลาการทางการแทพย์ ” นายสุทธิชัยเผย
นายสุทธิชัยกล่าวอีกด้วยว่า การที่คนๆ หนึ่งกว่าจะขึ้นมาเป็น ผู้อำนวยการได้ ต้องใช้เวลานานมาก จากแพทย์ธรรมดา ไล่ขึ้นมาเป็นอาจารย์แพทย์ เป็นผู้อำนวยการ ไม่ใช่เรื่องง่าย อยากฝากไปยังผู้บริหารกทม. ถ้าฟังปัญหานี้แล้วไปทบทวน ตนเชื่อว่าแก้ไขไม่ยาก เราจะได้บุคลากรที่เหมาะกับงาน และจะเป็นประโยชน์กับกรุงเทพฯ
ด้าน นายจักกพันธุ์ รองผู้ว่าฯ กล่าวว่า สำหรับเรื่องนี้ ถ้าเป็นไปได้ตนอยากให้ทางผู้ว่าฯ กทม. ได้มีโอกาสชี้แจง เพราะการพิจารณาก็คงอยู่ที่ความเหมาะสมเป็นหลัก แต่ในกรณีที่คิดว่ามีข้อมูลใด ที่ถ้ามีการปรับเปลี่ยนแล้วจะเป็นการพัฒนากรุงเทพฯ ตนก็มั่นใจว่าทางฝ่ายบริหาร พร้อมจะรับความเห็นนั้นมาพิจารณา
