สคอ.เผยสถิติปีใหม่ 2567 อุบัติเหตุ 2,288 ครั้ง เจ็บ 2,307 คน ตาย 284 ราย แนะ ‘ดื่มไม่ขับ’
วันนี้ (23 ธันวาคม 2567) นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) เปิดเผยว่า จากข้อมูลศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ได้สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 7 วันของการรณรงค์ (วันที่ 29 ธันวาคม 2566-วันที่ 4 มกราคม 2567) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,288 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ รวม 2,307 คน ผู้เสียชีวิต รวม 284 คน สาเหตุอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 40.6 ตัดหน้ากระชั้นชิด 23.31 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 14.29 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 87.01
“อุบัติเหตุทางถนนที่เกิดจากการดื่มแล้วขับและขับเร็ว ส่งผลกระทบและสร้างความสูญเสียอย่างมหาศาล เจ็บ ตายและพิการ ขาดรายได้ หยุดงาน ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงความเสี่ยงบนเส้นทางและช่วงเวลาที่เกิดเหตุ เพราะอุบัติเหตุในประเทศไทยมีความรุนแรง โดยเฉพาะที่มาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วไปขับรถ เพราะการดื่มส่งผลกระทบต่อความสามารถในการขับขี่ 1.มองไม่เห็นคนข้ามถนน แอลกอฮอล์ส่งผลต่อการโฟกัสของดวงตา 2.สมองสั่งเบรกไม่ทัน แอลกอฮอล์ทำให้การส่งต่อข้อมูลจากสมองสู่อวัยวะส่วนอื่นช้าลง 3.ตัดสินใจผิดพลาด แอลกอฮอล์ส่งผลต่อความสามารถในการตัดสินใจเมื่อเจอเหตุการณ์เฉพาะหน้า 4.ง่วงซึม หลับใน แอลกอฮอล์ทำให้ประสาทเฉื่อยชา” นายพรหมมินทร์กล่าว
ผู้อำนวยการ สคอ.กล่าวต่อว่า ในเทศกาลปีใหม่ 2568 ในช่วง 10 วัน (วันที่ 27 ธันวาคม 2567-วันที่ 5 มกราคม 2568) หลายหน่วยงานได้มีมาตรการเข้มเพื่อควบคุมกำกับอย่างเข้มข้น ทั้งการบังคับใช้กฎหมายเน้น “เร็ว เมา หมวก” จึงขอคนเดินทางให้ความร่วมมือปฏิบัติตามกฎระเบียบ หากมีการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ตามจุดตรวจต่างๆ ก็ควรให้ความร่วมมือ หากปฏิเสธก็เท่ากับคนคนนั้นส่งเสริมให้บนถนนมีแต่ความเสี่ยง และก่อนเทศกาลปีใหม่ 3 เดือนที่ผ่านมา มีอุบัติเหตุจากดื่มแล้วขับเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นที่ จ.ชุมพร สะพานไทย-ญี่ปุ่น กรุงเทพมหานคร จ.ศรีสะเกษ และ จ.กำแพงเพชร ทุกกรณีล้วนมีพฤติกรรมการดื่มเข้ามาเกี่ยวข้องทุกราย จึงหวังว่าจะนำมาเป็นบทเรียน เป็นเครื่องมือในการวางแผน หาแนวทางป้องกันเพื่อไม่ให้เข้าไปอยู่ในความเสี่ยงดังกล่าว
“สำหรับโทษเมาขับเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ จำคุก 1-5 ปี ปรับ 20,000-100,000 บาท พักใช้ใบขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือเพิกถอน อาจมีโทษอื่นๆ ร่วมด้วย ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาลในแต่ละกรณี เมาแล้วขับเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส โทษจำคุก 2-6 ปี ปรับ 40,000-120,000 บาท พักใช้ใบขับขี่ไม่น้อยกว่า 2 ปี หรือเพิกถอน อาจมีโทษอื่นๆ ร่วมด้วย ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาลในแต่ละกรณี เมาแล้วขับเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โทษจำคุก 3-10 ปี ปรับ 60,000-200,000 บาท เพิกถอนใบขับขี่อาจมีโทษอื่นๆ ร่วมด้วย ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาลในแต่ละกรณี และปัจจุบันได้มีปรับปรุงกฎหมายจราจรฉบับใหม่ ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จราจรทางบก ฉบับที่ 13 พ.ศ.2565 เพิ่มโทษผู้กระทำผิดซ้ำ ข้อหาขับรถในขณะเมาสุรา ทำผิดครั้งแรก มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ 5,000-20,000 บาท หากทำผิดซ้ำข้อหา ‘เมาแล้วขับ’ ภายใน 2 ปี นับแต่วันกระทำผิดครั้งแรก เพิ่มโทษเป็นจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับ 50,000-100,000 บาท และศาลจะลงโทษจำคุกและปรับด้วยเสมอ ถูกพักใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่” นายพรหมมินทร์กล่าว