สปสช.เกาะติด 30 บาทรักษาทุกที่ จ.น่าน เช็กระบบหลังบ้านสกัดรับบริการซ้ำซ้อน

สปสช.เกาะติด 30 บาทรักษาทุกที่ จ.น่าน เช็กระบบหลังบ้านสกัดรับบริการซ้ำซ้อน

วันนี้ (3 มกราคม 2568) นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยภายหลังพร้อมด้วย นพ.วีระพันธ์ ลีธนะกุล รองเลขาธิการ สปสช. และ น.ส.จินตนา สันถวเมตต์ รักษาการผู้อำนวยการ สปสช.เขต 1 เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ จ.น่าน เพื่อติดตามโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ ของหน่วยบริการนวัตกรรมที่เข้าร่วมโครงการดูแลประชาชนสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง 30 บาท ว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ สปสช. ติดตาม 2 ประเด็น คือ เรื่องของระบบการตรวจสอบสิทธิและการตรวจสอบการให้บริการ และเรื่องของคุณภาพและมาตรฐานบริการตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่

“จากการลงพื้นที่หน่วยบริการนวัตกรรมที่ร้านยา และคลินิกทันตกรรม พบว่าเป็นระบบที่หน่วยบริการนวัตกรรมใช้ตรวจสอบการให้บริการได้ ป้องกันการมารับริการซ้ำซ้อน การรับบริการและให้บริการที่เกินความจำเป็นได้ เนื่องจากระบบจะแสดงข้อมูลว่า ประชาชนสิทธิบัตรทองไปรับบริการกับหน่วยบริการนวัตกรรมที่ใดมาก่อนบ้าง แต่จะไม่เห็นรายการการให้บริการ เช่น การจ่ายยา หรือการให้บริการรายการต่างๆ ซึ่ง สปสช. จะไปปรับปรุงระบบในส่วนนี้ เพื่อการตรวจสอบที่ครอบคลุมมากขึ้น นอกจากนี้ ในส่วนคุณภาพและมาตรฐานการให้บริการ พบว่าใน จ.น่าน และพื้นที่อื่นๆ ที่ขับเคลื่อน 30 บาทรักษาทุกที่ มีหน่วยบริการนวัตกรรมเข้าร่วมทั่วประเทศกว่า 1.3 หมื่นแห่ง จาก 7 นวัตกรรมบริการ ดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามกติกาที่แต่ละสภาวิชาชีพได้กำหนด” นพ.จเด็จ กล่าวและว่า  อย่างไรก็ตาม ในส่วนหน่วยบริการนวัตกรรมคลินิกกายภาพบำบัดยังมีน้อย สปสช.อยากให้เพิ่มจำนวนมากขึ้นเพื่อให้บริการบำบัดดูแลฟื้นฟูผู้ป่วยระยะกลาง แต่ก็เข้าใจว่าบุคลากรที่เป็นนักกายภาพบำบัดมีน้อย แต่ที่น่ายินดีคือ หน่วยบริการนวัตกรรมอื่นๆ ทั้งคลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ คลินิกทันตกรรม รวมถึงร้านยา ที่อีกหลายแห่งต้องการเข้าร่วมเป็นหน่วยบริการนวัตกรรม ขณะที่ สปสช. จะเตรียมความพร้อมและปรับปรุงระบบหลังบ้านให้มีความพร้อม เชื่อว่าจะทำให้ 30 บาทรักษาทุกที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพมากขึ้น

ภก.วิบูลย์ชัย ผลทิพย์ เจ้าของร้านยาบ้านยาหัวสะพาน กล่าวว่า ได้เข้าร่วมโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ เมื่อเดือนมีนาคม 2567 หลังจากที่ จ.น่าน ประกาศให้ดำเนินการโครงการดังกล่าวในระยะที่ 3 ในการดูแลอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย 32 อาการใหักับประชาชนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งผลตอบรับจากประชาชนสิทธิบัตรทอง 30 บาท ในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงร้านยาดีขึ้นต่อเนื่อง ขณะนี้มีประชาชนมารับบริการทุกวัน เฉลี่ยวันละ 1-2 ราย แต่ละรายจะให้บริการเฉลี่ยครั้งละประมาณ 10-15 นาที โดยส่วนใหญ่มาด้วยอาการเจ็บคอ ไอ มีเสมหะ มีน้ำมูก เป็นต้น จากการให้บริการ 30 บาทรักษาทุกที่ พบว่าประชาชนสะดวกอย่างมาก โดยเฉพาะในชุมชนใกล้ร้านยา ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่ไกลจากโรงพยาบาล เมื่อมีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยก็เข้ารับบริการปรึกษาอาการและรับยาที่ร้านยาคุณภาพได้ตามสิทธิ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งยังมีเวลามากขึ้นในการปรึกษาอาการกับเภสัชกรประจำร้านยา และช่วยลดการเดินทางไปโรงพยาบาล

ADVERTISMENT

ด้าน ทพญ.ณัฐฌา สุขสันต์ศิริกุล ทันตแพทย์ประจำคลินิกทันตกรรมทีสมายล์ กล่าวว่า จากเข้าร่วมเป็นให้บริการ ได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชนสิทธิบัตรทองใน จ.น่าน และมีประชาชนต่างอำเภอมารับบริการด้วย ทั้งนี้ ด้วยคลินิกทันตกรรมทีสมายล์เป็นคลินิกเดียวที่เข้าร่วมโครงการ เมื่อประชาชนทราบจึงมารับบริการมากขึ้น ซึ่งก็ไม่เป็นปัญหาเพราะคลินิกได้จัดเวลาและทำนัดหมายการเข้ารับบริการ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้สิทธิบัตรทองรับบริการประมาณ 10-15 คนต่อวัน ส่วนใหญ่เป็นเด็กและวัยผู้ใหญ่ นอกจากนี้ ยังมีแผนจะให้คลินิกสาขาที่ตั้งอยู่ อ.ปัว จ.น่าน เข้าร่วมโครงการด้วย เพราะเป็นพื้นที่ที่มีประชาชนอยู่มาก ซึ่งจะทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้สะดวกมากขึ้น

ขณะที่ ประชาชนสิทธิบัตรทอง 30 บาท จ.น่าน พร้อมลูกสาววัย 10 ขวบ ที่ใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาท และกำลังรอรับบริการที่คลินิกทันตกรรมทีสมายล์ กล่าวว่า พักอาศัยอยู่ที่ อ.นาหมื่น จ.น่าน อยู่ห่างจาก อ.เมืองน่านประมาณ 70 กิโลเมตร แต่ก็พาลูกสาวมารับบริการที่คลินิกทันตกรรมแห่งนี้ เพราะทราบมาว่าเข้าร่วมโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ จึงขับรถพาลูกสาวที่มีสิทธิบัตรทองมารับบริการ เพราะสามารถรับบริการทำฟันได้ในวันหยุดราชการได้ แต่เดิมที่อ.นาหมื่นจะต้องไปรอรับบริการที่โรงพยาบาลชุมชนที่ต้องรอคิวนาน และลูกสาวไม่สะดวกเพราะต้องขาดเรียน จึงตัดสินใจให้มารับบริการที่คลินิกทันตกรรมแห่งนี้ แม้ว่าจะต้องเสียค่าน้ำมันรถสำหรับเดินทางมาก็ตาม หากว่ามีคลินิกทำฟันอยู่ในอำเภอ กระจายออกไปมากขึ้นก็จะทำให้สะดวกมากขึ้นแน่นอน เพราะจะไม่ต้องเสียเงินค่ารถค่าน้ำมันเดินทางมารับบริการ