ชื่นมื่น! คนไทยในต่างแดน จูงมือคนรัก จดทะเบียนสมรสเท่าเทียม คู่แรกในตปท.

ชื่นมื่น! คนไทยในต่างแดน จูงมือคนรัก จดทะเบียนสมรสเท่าเทียม คู่แรกในตปท.

เมื่อวันที่ 24 มกราคม จากกรณีประเทศไทย ผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียม ให้จดทะเบียนสมรสระหว่าง บุคคล โดยเริ่มวันแรกเมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งประเทศไทย ถือเป็นประเทศที่ 3 ของเอเชีย ประเทศแรกในอาเซียน ที่ให้จดทะเบียนระหว่างบุคคลได้ โดยวันแรกที่เปิดให้จดทะเบียน ปรากฏว่ามีคู่รักมาจดทะเบียนเกือบ 2,000 คนเลยทีเดียว

ซึ่งนอกจาก ที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 อำเภอใน 76 จังหวัดทั่วประเทศ สำนักงานเขตในกรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขต สถานเอกอัครราชทูตไทยและสถานกงสุลไทยทั่วโลก ก็ได้เปิดให้บริการจดทะเบียนสมรสแก่คู่รักเพศที่หลากหลาย

ล่าสุด Royal Thai Embassy Canberra/สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา ได้โพสต์ภาพ คู่รักคู่แรกที่เดินทางมาจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมของไทย ในต่างประเทศ โดยได้เดินทางมาจดทะเบียนที่ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย

ADVERTISMENT

โดยระบุข้อความว่า “เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2568 สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จดทะเบียนสมรสตามกฎหมายไทยให้แก่บุคคลเพศเดียวกันเป็นคู่แรกในต่างประเทศ ตาม พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม หลังจากที่กฎหมายดังกล่าว ซึ่งมีชื่อทางการว่า พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พ.ศ.2567 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 2568 และการสมรสระหว่างบุคคลเพศเดียวกันไม่ขัดกับกฎหมายภายในของออสเตรเลีย

สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอแสดงความยินดีกับบุคคลทั้งสอง ทั้งนี้ คนไทยในออสเตรเลียที่ประสงค์จะจดทะเบียนสมรสตาม พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม สามารถติดต่อขอดำเนินการได้ตามขั้นตอนในเว็บไซต์ https://tinyurl.com/mry9tc9v

ADVERTISMENT

อนึ่ง นอกเหนือจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์ราแล้ว ยังสามารถติดต่อขอดำเนินการได้กับสถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์”

ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ยังเปิดเผยว่า ที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบูดาเปสต์รายงานว่า ได้รับจดทะเบียนสมรสระหว่าง นายกองลาภ ทินกร ณ อยุธยา และ นายเมธาสิทธิ์ สายเลน ซึ่งนับเป็นคู่รักเพศเดียวกันสัญชาติไทยคู่แรกที่จดทะเบียนสมรสในต่างประเทศ และเป็นคู่สมรสเพศเดียวกันคู่ที่สองในต่างประเทศ หลังจากที่ ‘พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม’ มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568 โดยมีนายพรหเมศ พหลพลพยุหเสนา เอกอัครราชทูต ณ กรุงบูดาเปสต์ และภริยา พร้อมข้าราชการและเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตร่วมเป็นสักขีพยาน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image