อยุธยาอ่วม PM2.5 ‘ณัฐณิชา’ เผย สสจ.แจก ‘หน้ากาก’ กลุ่มเปราะบางทั้งจว.
วันนี้ (26 มกราคม 2568) น.ส.ณัฐณิชา บุรณศิริ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า หลังจากเมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการ สธ. ได้เป็นประธานการประชุมการแก้ปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 โดยมีมาตรการ 5 ด้าน ในการดูแลประชาชนในช่วงสถานการณ์ฝุ่นมีค่าสูงเกินมาตรฐาน ตามข้อสั่งการของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่ง จ.พระนครศรีอยุธยา ได้น้อมรับนโยบายของ น.ส.แพทองธารและนายสมศักดิ์ มาดำเนินการโดยทันที
“อีกทั้งเมื่อวันที่ 24 มกราคม สถานการณ์ใน จ.พระนครศรีอยุธยา มีค่าฝุ่นสูงเป็นอันดับที่ 1 ของประเทศ และยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง 3 วัน จึงได้เร่งรัดไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) พระนครศรีอยุธยาดำเนินการตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการ สธ.โดยเร่งด่วน” น.ส.ณัฐณิชา กล่าว
น.ส.ณัฐณิชา กล่าวว่า ขณะนี้ ที่โรงพยาบาล (รพ.) บางปะอิน โดย นายฐาปกรณ์ จิตตนูนท์ ผู้อำนวยการ รพ.บางปะอิน ได้นำร่องดำเนินการและจะมีการขยายผลไปทั่วทั้งจังหวัด เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนตามนโยบายช่วยเหลือช่วงสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ดังนี้ 1.ลงพื้นที่ชุมชนให้คำแนะนำการป้องกันผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 แจกหน้ากากอนามัยโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 2.ติดตามและรายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ประจำวันให้ประชาชนได้รับทราบสื่อสาร แจ้งเตือนผ่านระบบ LINE, Facebook 3.จัดตั้งคลินิกมลพิษดูแลประชาชนที่รับผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 และเปิดให้มีการนัดหมายออนไลน์เพื่อปรึกษาแพทย์อาชีวอนามัย 4.จัดเตรียมห้องปลอดฝุ่นที่โรงพยาบาล เพื่อรองรับผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5
“นอกจากนี้ ยังได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน พร้อมทั้งให้โรงพยาบาลทุกแห่ง เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ ให้เจ้าหน้าที่ร่วมกับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) สำรวจปัญหาสุขภาพในกลุ่มเปราะบาง รณรงค์ให้ความรู้วิธีปฏิบัติตัวให้กับประชาชน” น.ส.ณัฐณิชา กล่าวและว่า ค่าฝุ่นในวันนี้ (26 มกราคม 2568) อยู่ที่ 76.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ยังคงแนะนำให้ประชาชนงดกิจกรรมกลางแจ้ง และควรสวมหน้ากากอนามัยหากเดินทางออกนอกบ้าน หรือ หากมีปัญหาทางสุขภาพที่เกิดจากฝุ่นขนาดเล็ก ในกลุ่มเสี่ยง ควรไปปรึกษาสถานพยาบาลใกล้บ้านทุกแห่ง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าสถานการณ์ฝุ่นยังไม่ส่งกระทบต่อการท่องเที่ยวในจังหวัดเท่าที่ควร โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ประชาชนยังคงนิยมเดินทางไปไหว้พระ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และรับประทานอาหารขึ้นชื่อของพระนครศรีอยุธยา กันอย่างต่อเนื่อง แต่ช่วงนี้ ขอแนะนำนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังพระนครศรีอยุธยา สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ภายนอกอาคาร