หมอเตือน! กินขนมไหว้ตรุษจีนระวัง ‘ติดคอ’ พร้อมบอกเทคนิค ‘กินเลี้ยงช่วงเที่ยง’ ดีกว่ามื้อค่ำ

เมื่อวันที่ 29 มกราคม นพ.ฆนัท ครุธกูล นายกสมาคมผู้ชำนาญการเพื่อกีฬาและสุขภาพ เปิดเผยผ่านแฟนเพจ “คุยกับหมอฆนัท” ถึงข้อควรระวังในช่วงเทศกาลตรุษจีน ว่า “สำหรับวันเที่ยวนี้ เปรียบเป็นวันปีใหม่ของชาวจีน เรียกว่า “ชิวอิก” บรรดาเหล่าญาติพี่น้องจะมาพบปะกัน ทำเรียกว่าวันเที่ยว ต่างคนก็จะมาร่วมอวยพรซึ่งกันและกัน เพื่อให้ปีใหม่นี้ พบเจอแต่ความสุข ความเจริญ

สิ่งหนึ่งที่นิยมปฏิบัติกันมากคือ รับประทานอาหารร่วมกัน ซึ่งแน่นอนว่าของไหว้ ที่เราได้ไหว้ทำความเคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์เมื่อวานนี้ ก็จะถูกนำมาปรุงพร้อมเสิร์ฟในวันนี้

หมอเองห่วงเรื่องของ “ขนมไหว้” มากๆ เลยครับ เพราะจะเห็นกันทุกปีว่า มีเหตุคนสูงอายุ ที่ปกติแล้วระบบการเคี้ยว การกลืนก็เสื่อมถอยอยู่แล้ว มาทานขนมไหว้ที่มีความเหนียว เคี้ยวยากๆ เพราะเชื่อว่าเป็นสิริมงคล เช่น ขนมเข่ง ขนมเทียน ขนมจันอับ ที่ล้วนแล้วแต่เคี้ยวยาก ฝืดคอ ก็เกิดเหตุขนม อาหารติดคอ

ดังนั้นคำแนะนำที่สำคัญคือ ลูกหลานเอง หรือตัวผู้สูงอายุเองไม่ควรฝืนให้ทานขนมที่มีลักษณะเหนียว หนืด เคี้ยวและกลืนได้ยาก ขอให้เลือกทานแต่ขนมที่นิ่ม เปื่อยยุ่ยง่าย เพราะน้ำที่ดื่มตามเข้าไป ยังพอช่วยให้กลืนง่าย

ADVERTISMENT

ต่อมาอีกประการคือ อาหารไหว้ ส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อสัตว์ หมู ไก่ เป็ด การนำมาปรุงอาหารใหม่ ต้องล้างเศษธูปออกให้เกลี้ยง ทำให้สุกทั่วถึง และระวังเรื่องของที่อาจจะบูดเนื่องจากการเก็บรักษา

และประการสุดท้าย มื้ออาหารของครอบครัวที่มักจะตั้งโต๊ะกันช่วงเย็น ก็อาจจะเลื่อนเวลาให้เร็วขึ้นหน่อย หรือเปลี่ยนมาเป็นมื้อเที่ยง เนื่องจากการทานอาหารในงานเลี้ยง มักจะทำให้เราทานเยอะ รวมถึงมีชา กาแฟให้ดื่มกันด้วย ถ้าเราทานในเวลาเย็น ที่ใกล้กับช่วงจะเข้านอน อาจทำให้เกิดอาการท้องอืด แน่นท้อง ดังนั้น ถ้าเราทานงานเลี้ยงกันตั้งแต่ช่วงเที่ยง ก็จะสามารถนำมาใช้เป็นพลังงานให้กับเราในทั้งวันได้ครับ”

ADVERTISMENT

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image