เมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่กระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมปรึกษาหารือเกี่ยวกับนโยบายและทิศทางการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ร่วมกับสำนักงบประมาณ โดยมี นายกรณินทร์ กาญจโนมัย รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ นพ.พงศธร พอกเพิ่มดี รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายกิตติกร โล่ห์สุนทร เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายวิชัย ไชยมงคล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และผู้บริหารสำนักงบประมาณ เข้าร่วมประชุม
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป้าหมายในการจัดทำงบประมาณปี พ.ศ.2569 คือ “ยกระดับสาธารณสุขไทย แข็งแรงทุกวัย เศรษฐกิจสุขภาพไทยมั่นคง” โดยมีนโยบายสำคัญที่ตนให้ความสนใจ และต้องการเร่งรัดให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และยั่งยืน ได้แก่ 1.นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ทั้งการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่มีประสิทธิภาพ และมีการวัดผลลัพธ์ที่ชัดเจน ยกระดับระบบบริการสุขภาพ อาคารสถานที่ ศูนย์มะเร็ง และเน้นการใช้ระบบและเครื่องมือเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น การแพทย์ทางไกลอย่าง ‘ตู้ห่วงใย’ และปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) 2.นโยบาย “NCDs ดีได้ ด้วยกลไก อสม.” โดยมุ่งสร้างเครือข่ายภาคประชาชน เช่น อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เพื่อทำหน้าที่รณรงค์ ส่งเสริมป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) รวมถึงลงทุนในเครื่องมือสำหรับเก็บข้อมูลสุขภาพในระดับปฐมภูมิ การวัดผลลัพธ์ที่ชัดเจน และการคาดการณ์ทิศทางสถานการณ์การเจ็บไข้ได้ป่วยในอนาคตนายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า 3.จัดบริการสุขภาพเพื่อกลุ่มเสี่ยง กลุ่มเปราะบาง และพื้นที่พิเศษ ทั้งสถานชีวาภิบาล กุฏิชีวาภิบาล รื้อระบบการจัดการสุขภาพสำหรับคนต่างด้าว และการจัดการด้านสาธารณสุข กรณี ฝุ่นละอองขนาดเล็ก 2.5 ไมครอน (PM 2.5) 4.เศรษฐกิจสุขภาพ Medical and Wellness Hub ยกระดับโรงพยาบาลชายแดน 5 แห่ง ได้แก่ หนองคาย สระแก้ว ตาก และ กาญจนบุรี และจังหวัดบริเวณชายแดนติดประเทศมาเลเซีย ได้แก่ สตูล สงขลา ยะลา และ นราธิวาส จำนวน 1 จังหวัด รวมถึงการส่งเสริมการใช้สมุนไพรในระบบบริการ และส่งเสริมการเติบโตของเทคโนโลยีการรักษาและฟื้นฟูร่างกายแห่งอนาคต ธุรกิจสีชมพู – ตอบรับความต้องการ LGBTQIAN+ และ 5.สุขภาพจิตและยาเสพติด โดยพัฒนาระบบจิตวิทยาให้คำปรึกษา เช่น ผู้ป่วยโรคเครียด ซึมเศร้า ยกระดับหอจิตเวชและยาเสพติดทั่วประเทศ และผลักดันแนวคิด “1 ผู้เสพ สู่ 1 ผู้ค้า”
“ผมได้มีโอกาสขอคำแนะนำจากสำนักงบประมาณในเรื่องการสร้างรายได้ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งได้มีคำแนะนำที่เป็นประโยชน์คือ ให้สนับสนุนการผลิตยา และเวชภัณฑ์ ภายในประเทศ ซึ่งตรงกับนโยบายที่ผมได้ขับเคลื่อน คือให้กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ผลักดันการผลิตยาไทย สมุนไพรไทยให้มากขึ้น โดยให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ใช้สมุนไพรไทยมากขึ้นด้วย เพื่อลดการนำเข้ายาจากต่างประเทศ และสร้างรายได้ในประเทศแทน ดังนั้น ผมจึงขอให้กรมการแพทย์แผนไทยฯ เร่งรัดการขับเคลื่อนเรื่องนี้ด้วย” รมว.สาธารณสุข กล่าวขณะที่ นายกรณินทร์ กล่าวว่า เป้าหมายการจัดทำงบประมาณของปี พ.ศ.2569 คือ 1.ไม่ลดสัดส่วนงบลงทุนและอุดหนุนเพื่อสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง 2.ไม่เพิ่มงบดำเนินงาน เน้นเพิ่มประสิทธิผล แต่ไม่เพิ่มงบประมาณ และ 3.ไม่เพิ่มอัตรากำลัง เน้นพัฒนากำลังคนให้มีประสิทธิภาพ และดูแลด้านสวัสดิการให้ทั่วถึงและเท่าเทียม ดังนั้น การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 กรอบวงเงินงบประมาณ 3.7 ล้านล้านบาท ในการขอรับการจัดสรรงบประมาณ ต้องพิจารณาปรับเพิ่มขึ้นเท่าที่จำเป็น และต้องไม่เพิ่มรายจ่ายประจำ โดยสำนักงบประมาณ มีแนวทางการพิจารณางบประมาณตามหลักการ 3R และ 3E ซึ่ง 3R คือ Review ทบทวนปรับลดงบประมาณจากการประเมินผลสำเร็จของการใช้จ่ายในปีที่ผ่านมา Redeploy ทบทวนปรับลดงบประมาณจากการประเมินผลสำเร็จในการดำเนินงานเพื่อชะลอหรือ ยกเลิกโครงการที่มีความสำคัญระดับต่ำหรือหมดความจำเป็น และReplace นำวงเงินที่สามารถปรับลดได้จากการ Review และ Redeploy มาจัดสรรตามความจำเป็นและเหมาะสม ส่วน 3E คือ Economy ประหยัด Efficiency ประสิทธิภาพ และ Effectiveness ประสิทธิผล