ชัชชาติ เตรียมขอรัฐบาลให้กรุงเทพฯ เป็นเขตควบคุมมลพิษ ขอบคุณมหาดไทยตัวเลขเผาจังหวัดใกล้เคียงลดลง
เมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาการกรุงเทพมหานคร ดินแดง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ว่า ช่วงนี้สถานการณ์ฝุ่นในกรุงเทพฯ ดีขึ้น ต้องขอบคุณกระทรวงมหาดไทยที่ได้กำจัดจุดเผาลงได้เยอะ ในพื้นที่ใกล้เคียงเห็นตัวเลขลดลงชัดเจน น่าจะทำให้ฝุ่นสะสมในพื้นที่กรุงเทพฯ ดีขึ้น ปริมาณการจราจรในวันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา มีคนใช้รถไฟฟ้าสายสีเขียวเพิ่มขึ้น 50% การจราจรในถนนที่มีรถไฟฟ้าผ่าน เช่น พหลโยธิน ลาดพร้าว ลดลง 15% ขณะที่จุดที่ไม่มีรถไฟฟ้า เช่น สะพานพระปิ่นเกล้า ลดลง 2-3% มาตรการใช้ขนส่งสาธารณะฟรีมีผลในเส้นทางที่รถไฟฟ้าเข้าถึง ซึ่งในภาพรวมน่าจะทำให้คนหันมาใช้รถไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น
นายชัชชาติกล่าวว่า ส่วนเรื่อง Work from Home (WFH) เป็นเรื่องขอความร่วมมือ เราทำมาสองปีแล้ว ในปีนี้มีเครือข่ายเข้าร่วมประมาณ 1 แสนคน ได้สั่งการให้ขยายเครือข่ายให้ถึง 2 แสนคน หัวใจสำคัญคือ เราให้ข้อมูลที่แม่นยำและประกาศล่วงหน้า เพื่อบริษัทจะใช้ในการตัดสินใจเข้าร่วม สัปดาห์ที่ผ่านมาที่เราประกาศ WFH ข้อมูลแม่นยำ น่าจะสร้างเชื่อมั่นให้คนจะมาร่วมกับเรามากขึ้น นอกจากนี้ ยังให้ขยายเครือข่ายไปส่วนของโรงเรียนสังกัดอื่นๆด้วย เพื่อนำข้อมูลไปพิจารณาเปิด-ปิดโรงเรียน ถ้าบริษัทต่างๆ รวมถึงโรงเรียนร่วมเป็นเครือข่ายมากขึ้น เชื่อว่าสถานการณ์ฝุ่นของ กทม. จะดีขึ้น
นายชัชชาติกล่าวว่า ส่วนมาตรการเขตมลพิษต่ำ (Low Emission Zone: LEZ) ห้ามรถตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป ยกเว้น EV, NGV, EURO 5-6 และรถที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนบัญชีสีเขียว (Green List) เข้าพื้นที่วงแหวนรัชดาภิเษก มีรถลงทะเบียน Green List แล้ว 40,000 กว่าคัน เป็นตัวเร่งเชิงรุกทำให้คนมาดูแลรถเปลี่ยนน้ำมันเครื่องไส้กรอง ผู้ประกอบการก็ชอบประเด็นนี้ ในส่วนรถที่ฝ่าฝืนประกาศเข้ามาในพื้นที่ห้ามเข้า ก็จะส่งเขตพื้นที่ตรวจสอบให้เจ้าหน้าที่เทศกิจแจ้งความกับตำรวจสน.พื้นที่ ดำเนินการตามกฎหมาย ปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำคุกทั้งปรับ ที่มิงว่าค่าปรับน้อยไปก็ทำได้ตามกฎหมาย แต่กทม.เรามีอำนาจจัดการ รถที่วิ่งเข้ามาต้องมีที่ไปตามไซต์ก่อสร้าง กทม.สั่งหยุดก่อสร้างได้ ต่อไปรถที่เข้าใซต์ก่อสร้างต้องอยู่ใน Green List ด้วย ทั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ทำอาจใช้เวลา แต่ยืนยันว่าเอาจริงเอาจัง และให้ขยายระบบกล้องตรวจจับให้ทั่วทั้งกรุงเทพฯ รวมถึงให้พัฒนาระบบที่สามารถถ่ายทะเบียนแล้วรู้ทันทีว่าอยู่ใน Green List หรือไม่ ต่อไปจะให้ขยายครอบคลุมไปถึงรถปิกอัพ รถ 4 ล้อ หรือรถเก่าซึ่งอนาคตจะต้องมีกระบวนการดำเนินการ
“นอกจากนี้ มีประเด็นที่จะเสนอรัฐบาลเกี่ยวกับเรื่องฝุ่น 11 ข้อ เป็นเรื่องที่เราไม่มีอำนาจทำ เช่น ประกาศให้กรุงเทพฯ เป็นเขตควบคุมมลพิษ จะทำให้ กทม.มีอำนาจในการจัดการมากขึ้น สามารถนำเงินกองทุนส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมมาใช้ในการเพิ่มระบบต่างได้ โดยจะเร่งให้เสร็จในสัปดาห์นี้เพื่อเสนอรัฐบาลพิจารณาต่อไป” นายชัชชาติกล่าว