อ.อนันต์ เปิดบทความต่างชาติ ชี้อันตรายมลพิษทางอากาศ ส่งผลต่อโรคสมองเสื่อม ซึมเศร้า โรคจิตเภท
เมื่อวันที่ 29 มกราคม ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักวิจัยด้านไวรัสวิทยา ไบโอเทค ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก “Anan Jongkaewwattana” เกี่ยวกับมลพิษทางอากาศ โดยระบุว่า บทความนี้ตีพิมพ์ใน Nature เมื่ออาทิตย์ก่อน
พูดถึงปัญหามลพิษทางอากาศกับสมอง เนื้อหาของบทความบอกว่า ในช่วงแรก การศึกษาผลกระทบของมลพิษต่อสมองเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยมีใครสนใจ นักวิจัยส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่ผลกระทบต่อปอดและหัวใจ
แต่ปัจจุบัน วงการวิทยาศาสตร์ทั่วโลกเริ่มตื่นตัวกับประเด็นนี้มากขึ้น หลังจากมีการค้นพบว่ามลพิษทางอากาศเพิ่มความเสี่ยงของโรคสมองเสื่อม ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล และแม้แต่โรคจิตเภท นอกจากนี้ยังพบความเชื่อมโยงกับโรคออทิซึมและปัญหาพัฒนาการทางสมองในเด็กอีกด้วย
ที่น่าตกใจคือ แม้แต่ในเมืองที่คิดว่าอากาศ “สะอาดพอ” ก็ยังพบผลกระทบต่อสมอง
แล้วมลพิษ เช่น ฝุ่น PM2.5 เข้าสู่สมองได้อย่างไร? นักวิจัยพบว่ามีอย่างน้อยสองเส้นทาง: ทางแรกคือผ่านกระแสเลือดหลังจากที่เราหายใจเอามลพิษเข้าไป และอีกทางหนึ่งคือผ่านเส้นประสาทรับกลิ่นในจมูกโดยตรง โดยเฉพาะอนุภาคที่มีขนาดเล็กกว่า 100 นาโนเมตร ซึ่งเล็กมากจนสามารถแทรกซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อสมองได้ เมื่อมลพิษเข้าสู่สมอง มันจะกระตุ้นการอักเสบ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้เกิดความเสียหาย ผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่าการอักเสบนี้ส่งผลกระทบต่อเซลล์สมองทุกประเภท ทำให้ระบบต่างๆ ในสมองทำงานแย่ลง และอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตและโรคทางระบบประสาทในที่สุด
น่าสนใจว่า ความเสี่ยงจากมลพิษไม่ได้เท่ากันในทุกคน ผู้ที่มียีน APOE4 ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์อยู่แล้ว อาจมีความเสี่ยงสูงขึ้นเมื่อสัมผัสกับมลพิษ และยังพบความแตกต่างระหว่างเพศในการตอบสนองต่อมลพิษอีกด้วย ความรู้เหล่านี้เตือนให้เราตระหนักว่า การปกป้องตัวเองจากมลพิษทางอากาศไม่ใช่เรื่องเกินจำเป็น แต่เป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพสมองในระยะยาว การใส่ใจดูแลคุณภาพอากาศที่เราหายใจวันนี้ อาจเป็นการป้องกันปัญหาสุขภาพจิตและโรคทางสมองในอนาคตได้
สำหรับผู้ปกครองที่มีบุตรหลาน ควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากการศึกษาพบว่าเด็กที่อาศัยในพื้นที่ที่มีมลพิษสูงมีความเสี่ยงต่อปัญหาพัฒนาการทางสมองและความบกพร่องด้านการรู้คิด โดยเฉพาะในช่วงที่สมองกำลังพัฒนา การสัมผัสมลพิษอาจส่งผลต่อการเชื่อมต่อของเส้นใยประสาทในสมอง