แก่งกระจานสุดปลื้ม โคร่ง กำเนิดลูกน้อย3ตัว ครั้งแรก คาดเป็นหลานของ ญาญ่า เสือยุคแรกที่พบในพื้นที่

แก่งกระจานสุดปลื้ม โคร่งหมายเลข3 ให้กำเนิดลูกน้อย3ตัว ครั้งแรกของป่า คาด เป็นหลานของ ญาญ่า เสือยุคแรกที่พบในพื้นที่

วันที่ 30 มกราคม นายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้สัมภาษณ์ กับ มติชนออนไลน์ว่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้เก็บกล้องดักถ่ายสัตว์ป่า ที่ติดตั้งไว้ในพื้นที่ที่กลางป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และเปิดกล้องดู พบภาพที่น่าตื่นเต้นคือ แม่เสือ ที่เป็นเสือหมายเลข 3 ที่ทางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเคยถ่ายรูปได้ครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 โดยเสือหมายเลข 3 ตัวนี้เดินผ่านหน้ากล้องพร้อมกับลูกเสือตัวน้อยๆ 3 ตัว สูงประมาณหัวเข่าของแม่ คาดว่าอายุประมาณ 1 เดือน ถือเป็นครั้งแรก ของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานที่พบลูกเสือเกิดใหม่เช่นนี้

นายมงคล กล่าวว่า จากการสำรวจประชากรเสือโคร่งในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานนั้น พบว่า มีประมาณ 8 ตัว ตัวแรกนั้น เป็นเสือตัวเมีย ตั้งชื่อว่า ญาญ่า ตัวที่ 2 เป็นเสือตัวผู้ ตั้งชื่อว่า ณเดช ตัวที่ 3 คือ ตัวปัจจุบันที่เป็นแม่ของเสือน้อย 3 ตัว เป็นเสือโคร่งขนาดเล็ก หากินอยู่บริเวณเขาพะเนินทุ่ง บางกลอย และแม่น้ำเพชรบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนป่าพบรอยตีน และถ่ายภาพได้อยู่เรื่อยๆ ตัวที่ 4-8 เป็นเสือที่เดินทางไปมาระหว่างรอยต่อกับป่าประเทศเพื่อนบ้าน คือ เมียนมา

ADVERTISMENT

“ณเดช กับญาญ่า นั้น เป็นเสือที่แก่มากแล้ว เราเจอครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2563 ตอนนี้น่าจะตายไปแล้ว ทั้งนี้เราคาดการณ์ว่า เสือหมายเลข 3 ที่มีลูก 3 ตัว นี้ อาจจะเป็นลูกของญาญ่า โดยพ่อของเด็กๆ3ตัว อาจจะเป็นลูกของเสือหมายเลข 6 โดยเสือหมายเลข 6 ที่เราเคยถ่ายรูปได้มีขนาดใหญ่มาก เชื่อว่า เป็นเสือที่มาจากการแลกเปลี่ยนพันธุกรรม ระหว่างเสือไทยและเสือพม่า จึงมีรูปร่างใหญ่ แข็งแรงกว่าเสือประจำถิ่นในแก่งกระจาน นั่นหมายถึง เหลือน้อยทั้ง 3 ตัวก็มีความเป็นไปได้ว่า เป็นหลานของเสือญาญ่าด้วย ซึ่งก็เป็นเพียงคาดการณ์ความเป็นไปได้เท่านั้น ซึ่งจะอย่างไรก็ตาม ถือว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมากที่เรา มีสมาชิกใหม่เป็นลูกเสือโคร่งน้อย 3 ตัว ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ป่าแก่งกระจาน”นายมงคล กล่าว

เมื่อถามว่า จะมีการจัดการอย่างไรกับเสือน้อยที่เกิดขึ้นมาใหม่ นายมงคล กล่าวว่า ต้องปล่อยให้แม่เลี้ยงดูไปตามธรรมชาติ ในส่วนของอุทยานที่จะจัดการได้ คือ ดูแลปริมาณเหยื่อให้อุดมสมบูรณ์มากขึ้น ซึ่ง ณ เวลานี้ เหยื่อของเสือโคร่ง คือ กระทิง กวาง และหมูป่า ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานถือว่า มีความอุดมสมบูรณ์มากอยู่แล้ว เจ้าหน้าที่เคยนับปริมาณกระทิงฝูงใหญ่ พบว่า มีมากเกิน 100 ตัว นอกจากนี้ จะมีความเข้มข้นในการลาดตระเวนพื้นที่มากขึ้น ซึ่งทางอุทยานมีระบบการลาดตระเวนเชิงคุณภาพอยู่แล้ว

ADVERTISMENT

“เราคงต้องติดตั้งกล้องถ่ายภาพสัตว์ป่าเพิ่มขึ้น น่าเสียดายว่า กล้องตัวที่ถ่ายภาพแม่เสือพาลูกเดินผ่านนั้นเป็นกล้องภาพขาวดำ ไม่มีเสียง แต่ตัวที่เป็นกล้องภาพสีนั้น ถ่ายเห็นแต่ทางด้านหลัง”หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image