ผู้ว่าฯ สัญจร รอบ 2 เขตวัฒนา ลุยแก้เส้นเลือดฝอย จับมือตำรวจลุย ‘สุขุมวิทโมเดล’ จบปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า ขอทานต่างด้าว รถจอดแช่
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายสัณห์สิทธิ์ เนาถาวร สมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขตวัฒนา นำคณะผู้บริหาร กทม. ร่วมกิจกรรม “ผู้ว่าฯ สัญจร (รอบ 2)” เขตวัฒนา ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมสำคัญตามนโยบาย “บริหารจัดการดี” เพื่อเวียนไปรับฟังปัญหา หารือกับแต่ละสำนักงานเขต และลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้าของโครงการต่าง ๆ ตามนโยบาย และติดตามการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจริง
นายชัชชาติ กล่าวว่า วันนี้เป็นการติดตามงานจากการสัญจรครั้งที่ผ่านมาซึ่งหัวใจคือการไปสอบถามปัญหาของประชาชน ที่สะท้อนมาให้ กทม. แก้ปัญหา อาทิ กองทุนพัฒนาชุมชน 200,000 บาท ที่ยังมีปัญหาจัดซื้อกล้อง CCTV ให้ประชาชนไม่ได้ หรือเรื่องฝุ่นPM2.5 ที่ กทม.แก้ปัญหาให้ประชาชนเต็มที่ ควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาน้ำท่วมด้วยการขุดลอกคูคลอง การแก้ปัญหาการก่อสร้างถนนล่าช้ากว่า 4 เดือนที่ซอยปรีดีพนมยงค์ 25 การตรวจสอบจุดอ่อนน้ำท่วมพร้อมการแก้ไขปัญหา
สำหรับการแก้ปัญหาโรงงานเชือดไก่ซอยปรีดีพนมยงค์ 44 ที่มีประชาชนร้องเรียนมาเรื่องสาธารณสุข เช่น กลิ่นเหม็น ควัน และน้ำเสีย ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำผิดมาตรฐานจะสั่งปิดทันทีตามอำนาจของกทม. คือ พ.ร.บ.การสาธารณสุข อย่างไรก็ตามการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนต้องมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมควบคุมมลพิษ ร่วมบูรณาการด้วย จากนั้นลงพื้นที่ สวน 15 นาที ในพื้นที่เขตวัฒนาซึ่งมีทั้งสิ้น 7 แห่ง เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวใกล้บ้านให้กับประชาชน และในช่วงสุดท้ายจะลงพื้นที่ตรวจสอบทางเดินริมคลอง การสร้างเขื่อน ฟุตบาททางเท้าริมถนนสุขุมวิท การแก้ปัญหาคนเร่ร่อน ขอทานต่างชาติ การแก้ปัญหาการขายบุหรี่ไฟฟ้า
“ในส่วนของเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าตามหลักการแล้วห้ามขาย และตามกฎหมายคือห้ามนำเข้าในราชอาณาจักร รวมถึงการกวดขันเรื่องกัญชาและเซ็กส์ทอย ซึ่งที่ผ่านมา กทม. ลงพื้นที่ตรวจสอบถนนสุขุมวิทอย่างเข้มข้น ตั้งแต่นานาจนถึงทองหล่อ ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของ 2 สน. คือ สน.ทองหล่อ และ สน.ลุมพินี ซึ่งจากการร่วมกันกวดขันสถานการณ์ดีขึ้น รวมถึงเรื่องขอทานต่างชาติ คนไร้บ้าน ซึ่ง กทม. จะต้องร่วมดำเนินกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกวดขันให้เข้มข้นต่อไป ส่วนเรื่องของหาบเร่แผงลอย กทม.จะจัดระเบียบควบคู่กับการช่วยเหลือดูแลโดยหาพื้นที่ค้าขายให้” นายชัชชาติ กล่าว
นายชัชชาติ กล่าวว่า เรื่องของการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 กทม.ได้ดำเนินการห้องเรียนปลอดฝุ่น ใน 437 โรงเรียน ซึ่งมีชั้นอนุบาล 429 โรงเรียน จำนวน 1,966 ห้อง กทม.ดำเนินการห้องปลอดฝุ่นไปแล้ว 744 ห้อง และจะดำเนินการครบถ้วนทุกห้องภายในปีนี้ นอกจากนี้ทุกโรงเรียนจะมีห้องปลอดภัยที่มีเครื่องปรับอากาศและเครื่องกรองอากาศ เพื่อให้นักเรียนทุกคนปลอดภัยจากฝุ่นPM2.5 โดยที่ไม่ต้องประกาศปิดโรงเรียนทั้งกรุงเทพฯ เนื่องจากโรงเรียนยังเป็นที่ปลอดภัยสำหรับนักเรียน สิ่งที่น่าเป็นห่วงในตอนนี้ คือ ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนของเอกชนที่ยังมีห้องปลอดฝุ่นไม่ครบถ้วนซึ่ง กทม. จะเร่งดำเนินการให้ทุกศูนย์ฯ มีเครื่องตรวจอากาศให้ครบถ้วนภายในปีนี้
นอกจากนี้ยังมีเรื่องการแก้ปัญหารถสาธารณะจอดแช่บนถนนสุขุมวิทเพื่อบริการลูกค้าต่างชาติ ตั้งแต่ซอยนานาจนถึงซอยทองหล่อ ซึ่งเป็นอำนาจของตำรวจพื้นที่ กทม. จึงต้องบูรณาการความร่วมมือกับตำรวจในพื้นที่ร่วมกันแก้ไขปัญหาการจราจรต่อไป
“จากการลงพื้นที่ สัญจรรอบ 2 ทุกอย่างก้าวหน้าเป็นไปด้วยดีตามนโยบายเส้นเลือดฝอยที่กทม. สามารถแก้ปัญหาให้ประชาชนในชุมชนต่างๆ ได้” นายชัชชาติ กล่าว
สำหรับการสัญจร (รอบ 2) ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมชุมชนศาลาลอย ซอยปรีดีพนมยงค์ 26 ตรวจสอบเรื่องร้องเรียนกรณีขยายเวลาวางท่อระบายน้ำออกไปอีก 4 เดือน ส่งผลกระทบต่อการสัญจรของประชาชน ซอยปรีดีพนมยงค์ 25 ตรวจเยี่ยมชุมชนพัฒนาสามอิน ซอยปรีดีพนมยงค์ 32 ร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้ ณ ภายในสวน 15 นาที พาณิชย์อนันต์ ซอยปรีดีพนมยงค์ 42 ตรวจสอบเรื่องร้องเรียนกรณีโรงฆ่าไก่ส่งกลิ่นรบกวนผู้พักอาศัยบริเวณใกล้เคียง ซอยปรีดีพนมยงค์ 44
จากนั้น สัญจรต่อไปยังสถานีตํารวจนครบาลทองหล่อ เพื่อแจกของขวัญวันเด็กแห่งชาติ และมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่กลุ่มเปราะบาง ตามนโยบาย BKK Food Bank ณ ลานกีฬาสถานีตํารวจนครบาลทองหล่อ ประชุมหารือข้อราชการในพื้นที่เขตวัฒนากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากนั้นตรวจเยี่ยมชุมชนหลัง สน.ทองหล่อ ชุมชนคลองเป้ง (ลีลานุช) ซอยเอกมัย 19 ชุมชนนวลจิตร เอกมัย 23 ตรวจติดตามการดําเนินงานโครงการปรับปรุงสวนป่าเอกมัยบริเวณสะพานเอกมัย ริมคลองแสนแสบ ซอยสุขุมวิท 63 ตรวจการก่อสร้างเขื่อนทางเดินริมคลองแสนแสบด้านข้างสํานักงานเขตวัฒนาและการแก้ไข ปัญหาการก่อสร้างบ่อบำบัดรุกล้ำพื้นที่สาธารณะ ชุมชนสุเหร่าบ้านดอน ท้ายซอยสุขุมวิท 49/14 เพื่อตรวจเยี่ยมบ้านหนังสือ ตรวจเยี่ยมศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน ตรวจเยี่ยมชุมชนและรับฟังปัญหาของประชาชน